ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่เดือนแห่ง Mother's Day
เมื่อพูดถึงบริบทของความเป็นแม่ เราจะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่าคนรุ่นใหม่เริ่มปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตครอบครัวกันมากขึ้น หลายๆ คนเริ่มหันมารับเลี้ยง ‘น้องหมา’ แทนการ ‘มีลูก’ จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่เรียกว่า Dog Mom Lifestyle
สำหรับประเทศไทยเอง เรามักจะเห็นภาพเจ้าของพาสุนัขออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ นั่งอยู่บนตักในร้านอาหาร Dog-friendly หรือแม้กระทั่งยกโขยงกันไปเที่ยวต่างจังหวัดทั้งครอบครัว ตัวอย่างเหล่านี้สามารถพบเจอได้เพิ่มขึ้นในวิถีชีวิตคนเมืองโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่เทรนด์การเปิดกว้างอนุญาตให้เจ้าตูบมีส่วนร่วมในสถานที่ต่างๆ กับเจ้าของนั้นมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คุณเก๋ - ชลลดา ในฐานะแม่หมาดีเด่น
วันนี้ทาง Yora ถือว่าโชคดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณ เก๋ - ชลลดา สิริสันต์ ที่ใครๆ ก็ต่างเรียกเธอว่า ‘นางฟ้าหมาจร’ เจ้าของมูลนิธิช่วยเหลือสุนัขจรจัดในประเทศไทยอย่างมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา รวมถึงเป็นคุณแม่(หมา) ลูก 4 อีกด้วยครับ
คุณเก๋บอกกับเราว่า ความรักที่เธอมีให้น้องหมาเรียกได้ว่าเป็น ‘Unconditional Love’ นั่นคือรักที่ปราศจากเงื่อนไข ไม่ว่าน้องหมาจะน่ารักหรือไม่น่ารักยังไงก็ตาม เธอก็พร้อมรักและใส่ใจแบบไร้ซึ่งการตั้งคำถามใดๆ ยกตัวอย่างเช่นน้องหมาตัวปัจจุบันพันธุ์มอลทีสที่เธอเล่าว่าซื้อตรงมาจากฟาร์ม แต่พอเลี้ยงไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็นมอลทีสพันธุ์ทาง หรือที่คุณเก๋เรียกติดตลกว่า ‘มอลทีสไซส์คับบ้าน’ คือมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าปกติถึงสองเท่า แต่คุณเก๋กลับย้ำเตือนเสมอว่า...
“ถ้าเราจะรักเค้าแล้ว เค้าจะไม่น่ารักหรือเค้าจะกลายพันธุ์ยังไง เราก็ต้องรักเค้าค่ะ”
หากใครติดตาม IG : kaechollda ก็น่าจะเห็นภาพคุณเก๋โพสต์รูปน้องหมาอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงยังมี IG ส่วนตัวสำหรับโพสต์รูปเจ้าตูบสี่ขาโดยเฉพาะ ชื่อว่า 4p.thegang โดยสุนัขของคุณเก๋ตอนนี้ส่วนมากจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็กซึ่งประกอบไปด้วยพันธุ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย, พูดเดิ้ล, และมอลทีสอีก 2 ตัว โดยสุนัขที่คุณเก๋เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่อุปการะมาจากมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา กับปณิธานส่วนตัวที่ว่า ‘No Shop, Please Adopt’ เพื่อเป็นการลดปริมาณหมาจรที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อน้องหมามาเลี้ยง แต่กลับทิ้งขว้างเมื่อสุนัขโตขึ้นและไม่น่ารักอย่างเก่า
“ต้องไม่ลืมว่าเค้ามีสิ่งชีวิตนะ ขนาดต้นไม้ยังกลัวเหี่ยวเฉาเลย นับประสาอะไรกับสัตว์ เค้าก็เจ็บ ป่วย อกหัก เหงา หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยได้เหมือนกัน เราก็อย่าทิ้งขว้างเค้าเลย”
จากมุมมองของคุณเก๋ เธอเห็นด้วยความคนสมัยใหม่เริ่มหันมารับเลี้ยงสุนัขแทนการมีลูกกันเยอะมาก อย่างคนรอบตัวเธอเองก็ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดี ไม่ต่างกับลูกในไส้ของตัวเอง โดยเหตุผลอาจจะเป็นเพราะการดูแลที่ง่ายกว่า รวมไปถึงไม่ต้องมีพันธะผูกพันแบบ Long-Lasting จนกลายเป็นความกังวลในระยะยาว
คุณเก๋เล่าว่า การเลี้ยงหมาทำให้เธอเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น จากที่เป็นคนใจอ่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือสุนัขอย่างจริงจัง แววตาของเค้าเหล่านั้นทำให้เธออยากช่วยเป็นกระบอกเสียงให้สัตว์ต่อไปเรื่อยๆ โดยคุณเก๋เล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขว่า...
“การช่วยสัตว์หนึ่งตัว ชีวิตเราไม่ได้เปลี่ยนเท่าไหร่นะ แต่โลกทั้งใบของเค้าอ่ะ มันเปลี่ยนไปเลย”
หมาทุกตัวที่คุณเก๋ช่วยเหลือ ต่อให้ได้บ้านไปแล้ว ก็ยังดีใจทุกครั้งเมื่อคุณเก๋ไปเยี่ยม เค้าจำเราได้จริงๆ เค้ารู้ว่าเราช่วยเค้า เหมือนเค้ากำลังสำนึกบุญคุณเราอยู่
จนถึงวันนี้ มูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา ก่อตั้งมาครบ 10 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นเล็กๆ จากการที่คุณเก๋ลงไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่ดันเหลือบไปเห็นสัตว์อีกหลายชีวิตที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง ทำให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจจัดตั้งศูนย์ Finding Home ส่งน้องหมากลับบ้าน และเติบโตมาเป็น 'มูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา’ ที่กลายเป็นกระบอกเสียงหลักในการอยากเพิ่มความมั่นคงให้กับชีวิตของสัตว์ในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้
“เพราะสัตว์เค้าพูดไม่ได้ ถ้าเรามีเสียงและยังมีแรงพอ เราก็ควรจะเป็นกระบอกเสียงให้สัตว์เหล่านั้น” คุณเก๋กล่าว และเธอได้ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าคิดจะมีสัตว์เลี้ยง ต้องเตรียมใจเผื่อไว้เลย ว่ามันคือภาระหน้าที่และความรับผิดชอบแต่ถ้าคิดว่าทำไม่ได้หรือไม่แน่ใจ "ไม่พร้อม ไม่เลี้ยงนะคะ”
ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงเลือก 'เลี้ยงหมา' แทนการ 'มีลูก' มากขึ้น?
นิตยาสารชื่อดังของของอเมริกาอย่าง Forbes เผยแพร่คอลัมภ์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวที่เปลี่ยนไปโดยตั้งคำถามที่น่าสนใจไว้ว่า “ทำไม Millenials ถึงเลือกเลี้ยงหมาแทนการมีลูก?” โดยเล่าว่า ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของโลกในตอนนี้ สิ่งแวดล้อมกำลังถูกทำลาย และความเสี่ยงต่างๆ พัฒนากลายเป็นความกลัวการเป็นพ่อคนแม่คนไปโดยปริยาย โดย Forbes ได้ระบุสาเหตุหลักๆ ไว้ 2 ข้อด้วยกัน
ข้อแรก : ค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า
แน่นอนว่าการจะเลี้ยงน้องหมาให้ดีนั้น มีราคาที่ค่อนข้างสูงพอตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวน้องตั้งแต่เริ่มรับมาเลี้ยง, ค่าใช้จ่ายตอนทำวัคซีน, เงินสำรองกรณีเกิดการเจ็บป่วยกระทันหัน ค่าจิปาถะสำหรับเพิ่มความสุขให้เจ้าตูบ และที่สำคัญคือค่าอาหารที่จำเป็นต้องจ่ายทุกเดือน ยิ่งบ้านไหนรักน้องหมามาก มักจะยอมเสียเงินซื้ออาหารเกรดพรีเมี่ยมเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของเจ้าตูบ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีลูกจริงๆ แล้ว ก็ยังถือว่าต่างกันหลายเท่าตัว อ้างอิงจากบทความของ Wongnai ระบุว่า ในการเลี้ยงลูกทั่วไปหนึ่งคน เราอาจต้องใช้เงินถึง 7,810,000 บาท แต่หากทุ่มทุนสุดตัวเพื่อให้ลูกโตมาในสังคมที่มีคุณภาพ ค่าใช้จ่ายอาจพุ่งสูงถึง 36,180,000 บาททีเดียวครับ
ข้อสอง : อิสรภาพในการใช้ชีวิต
ปัจจัยที่สองก็คงจะหนีไม่พ้นอิสรภาพการใช้ชีวิต แน่นอนว่าหากมีลูก เป็นไปไม่ได้เลยที่พ่อแม่จะปล่อยลูกทิ้งไว้คนเดียวที่บ้าน แล้วออกไปทำงาน สังสรรค์ หรือพบปะผู้คน แต่การเลี้ยงเจ้าตูบนั้นสามารถทำได้ ต่อให้น้องหมาเองต้องการความรักและความอบอุ่น แต่เค้าก็สามารถอยู่บ้านตัวเดียว รอคุณกลับมาจากทำงาน เพียงแต่ต้องเตรียมอาหาร น้ำสะอาด และของเล่นแก้เหงาไว้ให้เค้าแค่นั้นเองครับ รวมไปถึงการพาน้องหมาไปมีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตประจำวันเอง อย่างเช่น การพาออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ก็ถือว่ายุ่งยากน้อยกว่าการมีลูกมากเลยล่ะครับ
สุดท้ายนี้ ทาง Yora ขอขอบคุณทุกคนที่ดูแลสุนัขของตัวเองอย่างดีที่สุด อย่าลืมนะครับ ว่าน้องๆ ก็มีจิตใจและความรู้สึก ต่างกับคนเพียงแค่เค้าพูดไม่ได้ สำหรับวันแม่ปีนี้ Celebrating Dog Mom day กันครับ!
แหล่งที่มา :
Reddy Anna is set to revolutionize the cricket ID exchange landscape in India. With plans for an enhanced user interface, they aim to make transactions smoother and more intuitive.
Visit- https://reddyanna-id.in/
The main role of robot sex dolls is still to provide personal companionship. These dolls are equipped with advanced artificial intelligence and can carry on conversations, recognize and respond to the user's emotions, and even simulate breathing and warmth. This makes them an ideal companion for individuals who are looking for emotional support, to relieve loneliness, and to provide a sense of presence in their lives. Engineers' design of sex doll heads has made robotic sex dolls meet most people's needs!