20 หมาพันธุ์เล็กสุดน่ารักน่าเลี้ยง ที่ใครๆเห็นก็ต้องหลง [พร้อมราคา]

หมาพันธุ์เล็กน่ารักยอดนิยม พร้อมอาหารที่เหมาะสมและวิธีดูแล

---

สำหรับใครที่กำลังมองหาหมาพันธุ์เล็กน่ารัก ๆ ไว้ดูแล เพื่อเติมความสดใสในวันที่เศร้าหมอง และสร้างเสียงหัวเราะให้คนในครอบครัว แต่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และการดูแล เช่นอยู่หอ คอนโด หรือบ้านพื้นที่น้อย รวมถึงกังวลเรื่องเสียงรบกวนต่อเพื่อนบ้าน วันนี้ทาง Yora Thailand ขอนำเสนอ 20 หมาพันธุ์เล็กแสนน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับปี 2024 ที่มีขนาดเล็กพกพาสะดวก แถมยังอ้อนเก่งสุด ๆ รับรองว่าใครเห็นเป็นต้องรักจนหัวปักหัวปำแน่นอน พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ เพิ่มเติมสำหรับใครที่มีพื้นที่มากพอ และอยากเลี้ยงสุนัขพันธ์ใหญ่ ทางเราได้เตรียมบทความเกี่ยวกับสุนัขพันธ์ใหญ่ไว้ให้เช่นกัน สามารถเข้าไปเช็คราคาสุนัขพันธ์ใหญ่ได้เลย

---

1. เฟรนช์ บลูด็อก (French Bulldog)

เริ่มต้นกันที่สุนัขตาแป๋วแสนน่ารักแห่งปี อย่างเฟรนช์ บลูด็อก หรือเฟรนช์ชี่ (Frenchie) ที่เรียกได้ว่านิยมกันสุด ๆ ในตอนนี้ สาเหตุก็เป็นเพราะเจ้าหมาหน้ามึนตัวนี้มีสีหน้าซื่อ ๆ แต่ช่างน่ารักเอ็นดู จะมองมุมไหนก็สร้างความสุขให้เจ้าของได้เสมอเลยล่ะครับ สุนัขพันธุ์เล็กนี้มีต้นกำเนิดที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง English Bulldog และ Boston Terriers นั่นเอง

ลักษณะทั่วไป

• ร่างกายแน่น กล้ามเนื้อเยอะ (รับรองว่ากอดอุ่นแน่นอน)

• จมูกสั้น ชอบดมกลิ่น และมีขนสั้นแนบติดลำตัว

• ใบหูใหญ่แบบค้างคาว ได้ยินเสียงรอบข้างชัดแจ๋ว

• ดวงตาแป๋ว กลมโต

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• มีความอ่อนโยนต่อเจ้าของ ไม่บ้าพลัง

• เห่าน้อย ไม่ดุ โดยจะเห่าก็ต่อเมื่อเจอเรื่องตื่นเต้นจริง ๆ

• ชอบเล่นซน แต่ไม่ควรออกกำลังกายหนัก เนื่องจากมีจมูกที่สั้นทำให้หายใจลำบาก

• ขี้อ้อน ต้องการความดูแลเอาใจใส่
  

อาหารที่เหมาะสม: เพราะเฟรนช์ชี่เป็นพันธุ์หมาตัวเล็กที่ไม่ควรออกกำลังกายหนัก ด้วยสภาพจมูกที่สั้นจึงทำให้เกิดปัญหาด้านการหายใจอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงอาการแพ้ง่ายต่าง ๆ ที่มักเกิดขึ้นกับน้องหมาพันธุ์นี้ เจ้าของจึงควรดูแลเอาใจใส่โดยเลือกอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการกำลังดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป ควรเน้นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเส้นใยธรรมชาติ รวมไปถึงวิตามินต่าง ๆ ซึ่งมักจะมีอยู่ในอาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยมสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กแบรนด์ต่างๆ เพื่อบำรุงผิวและขนของน้องให้สวยงาม ไม่หลุดร่วง

ราคา: 7,000 - 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

2. ชิบะ อินุ (Shiba Inu)

ตามมาด้วยน้องหมาพันธุ์เล็ก - กลาง ขนส่งตรงจากแดนปลาดิบ เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่น จะต้องเคยเห็นเจ้าชิบะเดินเล่นอยู่ทั่วเมืองแน่นอน ในอดีต น้องชิบะ อินุ เคยเลี้ยงไว้เพื่อเป็นนักล่า ทำให้มีความฉลาด รอบรู้ และคล่องแคล่วว่องไว ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าชิบะมีหน้าตาที่หล่อเหลาและท่าทางที่สง่าสุด ๆ แถมยังขี้เล่น น่าเอ็นดู และมีความกระตือรือร้นในตัวเอาซะมาก เหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน และเฝ้าบ้านไปในตัวครับ

ลักษณะทั่วไป

• ใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก

• รูปร่างกระทัดรัด สมส่วน กล้ามเนื้อแน่น

• มีขน 2 ชั้น ส่วนใหญ่นิยมสีครีม, น้ำตาลแดง และสีดำ

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• เป็นสายพันธุ์ที่มีความกล้าหาญ แต่ใจดี

• มีพลังงานเยอะ ควรมีพื้นที่วิ่งเล่นให้น้อง ๆ

• ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของเป็นที่สุด

• ค่อนข้างรักอิสระ หรืออินดี้บ้างในบางครั้ง
  

อาหารที่เหมาะสม: ด้วยไลฟ์สไตล์ที่กระตือรือร้นและชอบผจญภัย ทำให้หมาพันธุ์ชิบะต้องการอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการ รวมไปถึงพลังงานที่สูง อุดมไปด้วยแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย และมาจากแหล่งที่มีคุณภาพ โดยแนะนำว่าควรให้วันละ 2 มื้อ เพื่อจะได้มีพลังงานเพียงพอต่อกิจกรรมในแต่ละวันของเจ้าตัวเเสบ

ราคา: 25,000 - 70,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

3. ลาบราดูเดิล (Labradoodle)

ใครรู้จักน้องหมาสายพันธุ์ใหม่นี้บ้างครับ? ลาบราดูเดิลเป็นเจ้าหมาพันธุ์เล็กเลี้ยงง่ายที่เพิ่งเกิดมาไม่นาน จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์และพูเดิล มีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย ต้องบอกเลยว่าน้องฉลาด ขี้เล่น และเป็นมิตรสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือเพื่อนหมาด้วยกัน เจ้าลาบราดูเดิลก็พร้อมวิ่งเข้าไปเล่นด้วยเลยล่ะครับ เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการมีสมาชิกสี่ขาเพิ่ม

ลักษณะทั่วไป

• คล้ายพูเดิลที่ตัวใหญ่กว่า

• มีขนปุกปุยคลุมตัวแต่ไม่ค่อยร่วง เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้

• อายุขัยทั่วไป 12 - 14 ปี

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• มีความฉลาดอยู่ในตัว สามารถสอนทริคต่าง ๆ ได้ง่าย

• ชอบเข้าสังคม ทำความรู้จักกับสุนัขตัวอื่น ๆ

• ต่อให้เจอคนแปลกหน้าก็จะไม่ค่อยเห่า

• กระตือรือร้น ชอบเล่น กระโดด สำรวจส่ิงรอบตัว

อาหารที่เหมาะสม: สำหรับเจ้าลาบราดูเดิลที่มักจะชอบวิ่งเล่นและกระโดดไปมา อาหารที่เหมาะสมควรจะมีคุณค่าโภชนาการที่สูงตามปริมาณพลังงานที่น้องหมาต้องการในแต่ละวัน และเนื่องจากเจ้าลาบราดูเดิ้ลเป็นสุนัขผสมข้ามสายพันธุ์ จึงจำเป็นต้องใส่ใจเลือกอาหารสุนัขพันธุ์เล็กคุณภาพพรีเมียม ที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% และให้ทานโปรตีนแมลงแทนโปรตีนสัตว์ทั่วไปเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ทางผิวหนังที่มักเกิดขึ้นกับสายพันธุ์นี้

ราคา: 45,000 ขึ้นไป (ปัจจุบันยังไม่มีฟาร์มเฉพาะแพร่หลายในไทยมากนัก)

---

4. คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล (Cavalier King Charles Spaniel)

ที่สุดของสุนัขพันธุ์เล็กแสนน่ารัก! ต้องยกให้น้องหมาตาแป๋วที่แทบจะไม่ใช่สุนัขแล้ว เพราะนี่มันตุ๊กตาชัด ๆ กับ สายพันธุ์ คิง ชาลส์ สแปเนียล น้องหมายอดฮิตฟิลลูกคุณหนูที่ทำเอาหลาย ๆ คนใจละลาย แต่ก็ต้องตะลึงกับราคาที่สูงลิ่ว หากบ้านไหนสู้ไหวก็คงต้องรับน้องมาอยู่ด้วยแล้วล่ะครับ เพราะแววตาคู่นั้นช่างอ้อนวอนไม่มีใครเกิน จนยากที่จะห้ามใจไหว

ลักษณะทั่วไป

• ตาโต หูตก เหมือนตุ๊กตาสุด ๆ

• ขนยาวหยักโศกปานกลาง

• ตัวเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ยกให้เป็นลูกอ้อนตัวยง เพราะน้องชอบให้กอดและอุ้มเป็นที่สุด

• ใจดี ไม่ก้าวร้าว เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี

• ว่านอนสอนง่าย เข้าใจคำสั่ง

• เป็นหมาที่สงบ อดทน และใจเย็น
  

อาหารที่เหมาะสม: เจ้าหนูคิงชาลส์ สแปเนียล ต้องการอาหารที่สมดุลและเหมาะสม เพื่อที่จะให้เค้าแฮปปี้ สุขภาพดี มีขนที่สรวยไม่พันกันยุ่งเหยิง เจ้าของจึงควรใส่ใจในอาหาร และเลือกโภชนาการที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับสุนัขพันธุ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต หรือไขมันดีต่าง ๆ ก็ควรเป็นสารอาหารที่ครบถ้วน จากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้จริง ๆ

ราคา: 30,000 ขึ้นไป (ปัจจุบันยังไม่มีฟาร์มเฉพาะแพร่หลายในไทยมากนัก)

---

5. ชิวาวา (Chihuahua)

ต่อด้วยพันธุ์หมาเลี้ยงง่ายที่ครองใจคนไทยมาตลอดกาล ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าหมาตัวเล็กพริกขี้หนูอย่างชิวาวา สำหรับสุนัขพันธุ์นี้ถือว่าตอบโจทย์มากสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย และต้องการเพื่อนสี่ขาที่พร้อมจะออกไปท่องโลกกว้างกับเจ้าของได้ทุกที่ โดยถือว่าเป็นหมากระเป๋าพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก ต้นกำเนิดที่แท้จริงของชิวาว่ามาจากเม็กซิโก ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่ไม่ต่างกับไทยมากนัก ทำให้การเลี้ยงเจ้าตูบพันธุ์นี้เป็นที่แพร่หลายสุด ๆ ในบ้านเรา

ลักษณะทั่วไป

• มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว

• ดวงตากลมโต หูแหลมตั้งตรง

• มีขนาดเล็ก สูงเพียง 6 ถึง 15 นิ้วเท่านั้น

• อายุยืนถึง 17 ปี ซึ่งถือว่ายาวนานสำหรับหมาพันธุ์เล็ก

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• จุดเด่นคือความฉลาด สามารถสอนทริคต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

• ขี้อ้อน ชอบผู้คน แต่ก็สามารถเฝ้าบ้านได้ดี

• กระตือรือร้น ชอบวิ่งเล่นสำรวจสิ่งรอบตัว

• ทำความรู้จักกับสัตว์หรือสุนัขพันธุ์อื่น ๆ ได้ดี

• แอบมีความอินดี้ บางตัวชอบเห่า แต่บางตัวสุขุมนิ่งเงียบ

อาหารที่เหมาะสม​: ด้วยขนาดตัวที่เล็กมากของชิวาวา ทำให้ต้องการอาหารในปริมาณน้อยและมีขนาดเม็ดที่เล็ก แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่กระตือรือร้น ทำให้ชิวาวาต้องการสารอาหารที่มากเพียงพอต่อการเจริญเติบโต และใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งควรประกอบไปด้วยโปรตีนย่อยง่าย ธัญพืชที่ให้คาร์โบไฮเดรต และไขมันที่จำเป็นในปริมาณพอเหมาะ รวมไปถึงวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จะทำให้ขนสวย สุขภาพแข็งแรง และน้องหมาแฮปปี้จากภายในสู่ภายนอก

ราคา: 3,500 - 40,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

6. ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)

ปอมเมอเรเนียน เจ้าหมาพันธุ์เล็กขนยาวฟูฟ่องน่าฟัดน่ากอด ที่ใคร ๆ เห็นก็เป็นต้องตกหลุมรัก ในอดีตปอมมีถิ่นกำเนิดจากพื้นที่หนาวจัดแถบยุโรปตอนกลาง โดยเคยเป็นสุนัขใช้งานมาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคู่ใจ จนกลายเป็นขวัญใจเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงอยู่ช่วงหนึ่ง ด้วยนิสัยอันเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่าย ทำให้ปอมกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวได้อย่างง่ายดาย

ลักษณะทั่วไป

• เป็นสุนัขพันธุ์เล็กมาก น้ำหนักเพียง 1.5 ถึง 4 กิโลกรัมเท่านั้น

• มีสีที่หลากหลาย ถึง 23 สีเลยหล่ะ

• มีขนฟูฟ่องสองชั้น แนะนำให้หวีขนน้องทุกวันนะครับ

• ร่างกายดูสง่า อกเชิ่ด ดวงตาตากลมโต

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• รักเจ้าของ ขี้อ้อน ชอบคลอเคลีย

• ชอบเจอเพื่อนและผู้คนใหม่ ๆ แต่มักจะคิดว่าตัวเองเป็นหมาใหญ่ ทำให้ดูใจกล้าเกินตัวในบางครั้ง

• มีความฉลาด สามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เจ้าของสอนได้

• เมื่อสงสัยจะชอบเห่า ช่วยเฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี
  

อาหารที่เหมาะสม​: หมาปอมต้องการปริมาณอาหารที่ไม่มากนัก แต่ก็ต้องพอดีกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเจ้าของควรเลือกอาหารที่มีค่าโภชนาการพอดี เน้นโปรตีน และวิตามินจำเป็นที่จะช่วยเรื่องขนสวย ไม่หลุดร่วง รวมไปถึงหลีกเลี่ยงอาหารที่ปอมมักมีอาการแพ้อย่าง เนื้อไก่, เนื้อวัว, เนื้อแกะ และน้ำตาลแลคโตส เป็นต้น โดยอาจจะปรับเปลี่ยนมาเป็นโปรตีนอื่นๆ เช่น โปรตีนจากแมลงคุณภาพสูงที่มีปริมาณสารอาหารเหมาะสมและคุณภาพสูง

ราคา: 5,000 - 20,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

7. ชิสุห์ (Shih-Tzu)

ชิสุห์ เป็นหมาพันธุ์เล็ก ราคาไม่แพง ที่ครองไทยคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยนิสัยขี้เล่น ติดคนและเข้ากับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เหมาะมากกับบ้านที่มีเด็กวัยกำลังซน โดยสุนัขพันธุ์ชิสุห์นั้นฮิตมากในประเทศจีน ถึงขนาดว่าถูกจัดให้อยู่ในสายพันธุ์สุนัขชั้นสูง ก็เพราะว่าขนที่ยาวสง่าของชิสุห์นั้นสวยงามและมีเสน่ห์ รวมไปถึงนิสัยที่ชอบเอาใจเจ้าของ รับรองว่าบ้านไหนได้เลี้ยงเป็นต้องแฮปปี้แน่นอน

ลักษณะทั่วไป

• ปากและจมูกสั้น ตาลึก ใบหน้าเเบน

• มีขนาดเล็ก โดยทั่วไปน้ำหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม

• ขนตรงนุ่มยาวสรวย

• มักเจอปัญหาฟันเก หรือการสบฟันที่ผิดปกติ

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ไม่ค่อยเห่า ไม่ส่งเสียงดัง เหมาะกับการเลี้ยงในบ้านหรือหอพัก

• ร่าเริง แฮปปี้ มีชีวิตชีวา

• ชอบผจญภัย และกระตือรือร้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบบ้าน

• เข้ากับคนรอบข้างได้ดี ใจดีกับเด็กเล็ก

อาหารที่เหมาะสม: เช่นเดียวกับน้องหมาพันธุ์เล็กหน้าสั้นอื่น ๆ ชิสุห์ควรได้รับการออกกำลังกายที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันอาการ Overheat ที่เป็นผลมาจากปัญหาการหายใจ เพราะฉะนั้นปริมาณอาหารที่ให้ ควรพอเหมาะกับกิจกรรมในแต่ละวันอย่างสมดุล โดยเน้นโปรตีนจากธรรมชาติเกรดพรีเมี่ยม และวิตามินอย่าง Omega 3 และ 6 ที่จะทำให้น้อง ๆ ขนยาวสวยตลอดไป

ราคา: 2,000 - 10,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

8. ปั๊ก (Pug)

อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นชินกันดี นั่นก็คือ ‘หมาปั๊ก’ ฉายาเจ้าหมาหน้าย่น ชอบเอียงคอทำหน้าฉงน นึกภาพตามทีไรก็ยิ้มได้ทุกที โดยปั๊กถูกจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขพันธุ์ Toy ที่แสนร่าเริง ขนมันเงาสวย แถมยังมีพลังเยอะ ชอบชวนวิ่งเล่นจนเจ้าของวิ่งตามไม่ทันกันเลยทีเดียว ต้นกำเนิดจริง ๆ ของเจ้าปั๊กมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากในยุโรป รวมถึงประเทศไทยบ้านเราด้วยครับ

ลักษณะทั่วไป

• ลำตัวตันแน่น หูตก

• มีจมูกที่สั้น ต้องหมั่นใส่ใจดูแลเรื่องระบบหายใจ

• ขาแข็งแรงสุด ๆ พร้อมวิ่งเล่นอย่างคล่องแคล่ว

• ขนสั้นติดลำตัว มีความมันเงาสวย

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ร่าเริงสุดเป็นที่สุด ชอบวิ่งเล่นเป็นกิจวัตร

• มีความตื่นตัว หากสงสัยอะไรจะเห่า สามารถเฝ้าบ้านได้

• เชื่อง ว่านอนสอนง่าย

• ใจดีกับเด็ก สามารถเป็นพี่เลี้ยงสี่ขาได้ดี

อาหารที่เหมาะสม: สิ่งสำคัญของการเลี้ยงน้องหมาพันธุ์ปั๊ก คือต้องควบคุมปริมาณอาหารให้พอเหมาะพอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะสุนัขพันธุ์นี้ชอบกินมาก แม้ไม่หิวก็สามารถกินได้ในปริมาณที่เยอะ เจ้าของจึงต้องห้ามใจดีให้อาหารตามใจสุนัขเป็นเด็ดขาด ควรให้ครั้งละน้อย ๆ เช้า-เย็น และต้องเลือกอาหารที่มีปริมาณโปรตีนย่อยง่ายสูง รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรตจากธัญพืชที่จะทำให้เจ้าตูบอิ่มท้องได้นาน

ราคา : 4,000 - 10,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

9. พูเดิล (Poodle)

สุนัขตัวเล็กขนฟูอย่าง ‘พูเดิล’ ถือเป็นอีกหนึ่งพันธุ์หมาน่ารักประจำปี 2024 โดยเฉพาะใครที่ต้องปรับเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน น้องหมาพันธุ์นี้ถือว่าเหมาะสุด ๆ เพราะเขามีความฉลาดรอบรู้ แถมยังร่าเริง ช่างประจบประเเจง ใครชอบน้องหมาขี้อ้อน บอกเลยว่าพูเดิลพร้อมขโมยหัวใจของคุณแล้วล่ะครับ โดยพูเดิลถูกแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เล็ก กลาง และใหญ่ แต่ในประเทศไทยพูเดิลขนาดเล็กถือว่าถูกเลี้ยงอย่างแพร่หลายมากที่สุด

ลักษณะทั่วไป

• ขนแน่นหยิกฟู ไม่มีการผลัดขนอย่างหมาขนยาวชนิดอื่น

• มีหลากหลายสี ทั้งขาวล้วน น้ำตาลแดง หรือดำ

• จมูกยาว หูห้อย ดวงตาทรงอัลมอนด์

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ฉลาดมาก ๆ โดยได้รับทดสอบว่าฉลาดเป็นอันดับที่ 2 ในโลก มีไหวพริบดีกว่าหมาใหญ่อย่างโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ และลาบราดอร์ซะอีก!

• รักเจ้าของและคนรอบข้าง

• ไม่ก้าวราว แต่สามารถปกป้องคนที่รักได้

• ร่าเริ่ง ชอบวิ่งเล่น
  

อาหารที่เหมาะสม: เพราะพูเดิลมีความร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ คุณค่าโภชนาการที่ควรได้รับต้องสอดคล้องกับกิจวัตรประจำวันของสุนัขแต่ละตัว หลัก ๆ ควรเน้นเรื่องพลังงานและโปรตีนที่สูงเพียงพอต่อการเจริญเติบโต รวมถึงต้องหลีกเลี่ยง By-product หรือเศษอาหารเหลือทิ้งแปรรูปที่มีอยู่ในอาหารสัตว์บางยี่ห้อ เนื่องจากไม่มีสารอาหารที่ดีต่อพูเดิลมากนัก

ราคา: 3,000 - 20,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

10. คอร์กี้ (Welsh Corgi)

ไหนใครเป็นทาสคอร์กี้กันบ้างครับ? สุนัขพันธุ์เริ่มเป็นที่รู้จักกันในประเทศไทยมากขึ้น ถึงขนาดมีคาเฟ่คอร์กี้โดยเฉพาะให้เหล่าทาสได้ไปเชยชมความน่ารักกันเลยทีเดียว โดยพันธุ์สุนัข คอร์กี้ มีถิ่นกำเนิดมาจากแคว้นเวลส์ของอังกฤษ จมูกแหลมคลายสุนัขจิ้งจอก ปากที่มีลักษณะเหมือนยิ้มตลอดเวลา ลำตัวยาวแต่ดันขาสั้น ทำให้ใครเห็นเป็นต้องอดใจไม่ไหวในความน่ารักแบบผู้ดีของสุนัขพันธุ์นี้

ลักษณะทั่วไป

• จมูกแหลมคล้ายสุนัขจิ้งจอก

• หูตั้งชัน พร้อมฟังเสียงรอบข้าง

• ลำตัวยาว แต่ขาสั้น เวลาเดินน่ารักสุด ๆ

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• พร้อมเล่นตลอดเวลา ไม่กลัวคนแปลกหน้า

• มีความคล่องแคล่ว เฝ้าบ้านได้ดี

• ว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังคำสั่งจากเจ้าของ

• ฉลาด ชอบเข้าสังคม
  

อาหารที่เหมาะสม : สุนัขพันธุ์นี้มีความคล่อง พร้อมวิ่งเล่นตลอดเวลา แน่นอนว่าเขาต้องการสารอาหารที่เพียงพอต่อการเล่นซน เพราะฉะนั้นเจ้าของควรหาความสมดุลระหว่างปริมาณอาหารกับกิจกรรมประจำวันของน้องหมาในแต่ละวัน เน้นสารอาหารจากโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตที่พอเหมาะ สลับกับการให้ผักผลไม้ที่น้องหมาชอบเป็นบางครั้ง

ราคา : 15,000 - 30,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

11. ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)

เจ้าหมากระเป๋าพันธุ์จิ๋วแสนแบ๊วอย่าง ‘ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย’ หรือที่มีชื่อเล่นว่ายอร์กกี้ (Yorkie) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งน้องหมาพันธุ์เล็กที่เหมาะแก่การนำมาเลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจสาว ๆ เป็นอย่างมาก เพราะน้องหมาพันธุ์นี้มีความกะทัดรัดสุด สามารพกพกไปไหนมาไหนได้ด้วยกระเป๋าสุนัขเพียงใบเดียว หวีขนติดโบว์ ก็พร้อมออกไปโลดเเล่นกับคุณแม่ ๆ แล้วล่ะครับ

ลักษณะทั่วไป

• ขนาดตัวเล็กกะทัดรัด

• ขนตรงยาว มีความเงาสรวยนุ่มเหมือนเส้นไหม

• หัวกลมเล็ก หูตั้งตรง

• อายุทั่วไปประมาณ 13 ถึง 16 ปี

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• แต่ละตัวมีบุคลิกที่แตกต่างกัน

• ตัวเล็กแต่พลังงานเหลือล้น ชอบวิ่งเล่นออกแรง

• มีความฉลาด สามารถสอนทริคต่าง ๆ ได้ง่าย

• ไม่เห่าพร่ำเพร่อ ยกเว้นว่าเจอคนแปลกหน้าจริง ๆ

อาหารที่เหมาะสม: หากตัดสินใจเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ เจ้าของต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องอาหารเป็นพิเศษ เนื่องจากน้องหมายอร์กกี้มักเจอปัญหาเรื่องการแพ้อาหาร ซึ่งส่วนใหญ่มักแพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อเป็ด เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนเป็นอาหารย่อยง่ายจากโปรตีนแมลงแทน

ราคา: 13,000 - 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

12. มอลทีส (Maltese)

มอลทีส เจ้าหมาขนฟูปุกปุยสีขาวที่มาพร้อมกับสายตาบ้องแบ๊วเหมือนตุ๊กตา มีถิ่นกำเนิดจากเกาะเล็ก ๆ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ชื่อว่ามอลต้า (Malta) สุนัขพันธุ์มอลทีสมีนิสัยขี้เล่น ซุกซน แต่ก็รักเจ้าของเอาซะมาก ๆ แถมยังเชื่อฟังคำสั่ง สามารถสอนให้เรียบร้อยได้ไม่ยาก เหมาะที่สุดสำหรับบ้านที่อยากได้สมาชิกน่าตาน่ารักแบบนี้เพิ่มซักตัว

ลักษณะทั่วไป

• หัวกลม หูห้อย จมูกไม่ยาวมาก

• ดวงตากลมโตดำสนิท พร้อมอ้อนเจ้าของได้ทุกเมื่อ

• มีขนสีขาวปกคลุมทั้งตัว

• น้ำหนักประมาณ​ 2.5 ถึง 6 กิโลกรัม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ติดเจ้าของ ชอบป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้คน (บางตัวชอบให้อุ้มมาก ๆ )

• พลังงานเยอะ ชอบเล่นซน แต่ไม่ทำลายข้าวของ

• ไม่ค่อยเห่า ยกเว้นว่าไม่พอใจจริง ๆ

• ร่าเริง แจ่มใส ชอบออกกำลังกาย
  

อาหารที่เหมาะสม : เนื่องจากเจ้าหนูมอลทีสค่อนข้างมีความกระตือรือร้น และมีพลังงานอยากเล่นสูงเมื่อเทียบกับพันธุ์หมาตัวเล็กชนิดอื่น ๆ ทำให้มอลทีสควรได้รับสารอาหาร และพลังงานที่เพียงพอต่อการเล่นซน สำหรับหมาโตควรแบ่งอาหารเป็น 3 มื้อ โดยแต่ละมื้อจะต้องมีสารอาหารย่อยง่ายที่จำเป็น ได้แก่โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันดี ในสัดส่วนที่เหมาะสม

ราคา: 10,000 - 40,000 บาท (ราคาอาจพุ่งสูงถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

13. อิงลิช บลูด็อก (English Bulldog)

สุนัขพันธุ์ อิงลิช บลูด็อก คืออีกหนึ่งความน่ารักของสุนัขในสายพันธุ์บลูด็อก เพราะถึงจะชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่จริง ๆ แล้วเจ้าพันธุ์นี้ก็ขี้อ้อนใช่เล่น โดยจุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือความซื่อสัตย์ ใจเย็น และหน้าตาย ไม่ว่าจะเจออะไร สีหน้าของอิงลิช บลูด็อก จะยังคงเดิมเสมอ เป็นอีกหนึ่งสเน่ห์ของสายพันธุ์นี้ที่ทำให้พ่อ ๆ แม่ ๆ หลายคนเทใจจนหมดหน้าตักเลยเชียวครับ

ลักษณะทั่วไป

• ไหล่หนา ตัวแน่น

• ใบหน้าเหี่ยวย่น

• ริมฝีปากห้อย

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• เป็นสุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตรกับทุกคน

• แทบจะไม่ค่อยเห่า เหมาะกับการเลี้ยงในคอนโดสุด ๆ

• เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดีมาก เห็นเด็กเป็นต้องวิ่งเข้าหา

• อาจดื้อรั้นไม่ฟังคำสั่งในบางครั้ง

อาหารที่เหมาะสม: อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบอกว่าเจ้าตูบพันธุ์อิงลิช บลูด็อก ของคุณนั้นมีสุขภาพที่ดีหรือไม่ เนื่องจากขีดจำกัดด้านการเคลื่อนที่ของสุนัขพันธุ์นี้ รวมไปถึงปัญหาด้านการหายใจจากจมูกที่สั้น ทำให้น้องหมามักมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ ในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นอาหารของอิงลิช บลูด็อก ต้องมีโภชนาการที่พอเหมาะจากธรรมชาติ เลือกอาหารพรีเมียมที่ทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และหลีกเลี่ยงการให้อาหารคน

ราคา: 15,000 - 40,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

14. ดัชชุน (Dachshund)

ดัชชุน หรือน้องหมาพันธุ์เตี้ยฉายาไส้กรอก เป็นหมาขนสั้นสัญชาติเยอรมัน มีจุดกำเนิดจากการเป็นสุนัขล่าเนื้อ มีความว่องไว ปราดเปรียว สามารถไล่ล่าสัตว์ที่แอบอยู่ในโพรง อย่างกระต่ายหรือกระรอกได้ โดยภายหลังได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดที่เล็กลง และเหมาะแก่การเลี้ยงในบ้าน โดยน้อง ๆ พันธุ์นี้มักรักเจ้าของ ขี้เล่น และมีระเบียบสุด ๆ เลยล่ะครับ

ลักษณะทั่วไป

• ลำตัวยาว ขาสั้น

• กล้ามเนื้อขาแข็งแรง วิ่งไวมาก

• ดมกลิ่นเก่งสุด ๆ

• ขนสั้นติดลำตัว

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• รักเจ้าของ ขี้อ้อนและอ่อนโยน

• บ้าพลัง ชอบวิ่งเล่น และขุดคุ้ย

• อาจดื้อบ้างในบางครั้ง

• ว่ากันว่า..เพศเมียฉลาดกว่าแต่ฝึกยาก ในขณะที่เพศผู้รักเจ้าของแต่ซนสุด ๆ

อาหารที่เหมาะสม: เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้ต้องออกกำลังกายฝึกสัญชาตญาณนักล่าอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขามักเสียพลังงานไปกับการวิ่งเล่น จึงจำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต อย่างไรก็ตาม เจ้าของควรใส่ใจ และสังเกตุกิจกรรมของสุนัขพันธุ์นี้ให้ดีเพื่อที่จะนำมาคำนวณปริมาณอาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำหนักเกิน

ราคา: 5,000 - 20,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

15. บิชอง ฟริเซ่ (Bichon Frise)

น้องหมาขนปุย ฟูฟ่องที่ใคร ๆ เห็นแล้วก็ต้องเอ็นดู น้อง ๆ สายพันธุ์บิชองได้ชื่อว่าเป็นหมาขนสวย เหมือนปุยนุ่นเดินได้ แถมยังเป็นมิตรกับทาสหมาที่เป็นภูมิแพ้อีกด้วย! บิชองเป็นหมาที่ชอบเข้าสังคม ชอบใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับคนในบ้าน ติดคน ร่าเริง ขี้เล่น เหมาะจะเลี้ยงกับครอบครัว เพราะเป็นมิตรกับคนทุกเพศ ทุกวัย อยู่กับเด็ก ๆ ก็ ได้เพราะน้องอ่อนโยนเอามาก ๆ ครับ

ลักษณะทั่วไป

• ขนหนานุ่มและหยิกฟูดูคล้ายตุ๊กตา มีสีขาวเป็นหลัก

• มีดวงตาและจมูกสีดำที่โดดเด่น ตัดกับขนขาวปุกปุย

• ใบหูห้อย และมีขนปกคลุม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• อ่อนโยน ชอบเข้าสังคม เป็นมิตรกับผู้คนและสัตว์ตัวอื่น ๆ 

• ฉลาดและเรียนรู้เร็ว 

• ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายบ่อย แต่ควรพาไปเดินเล่นหรือให้วิ่งซนในสนามหญ้าบ้างเพื่อกระตุ้นสมอง

อาหารที่เหมาะสม: น้องหมาบิชอง ฟริเซ่ไม่มีความต้องการทางโภชนการใดมากเป็นพิเศษ แต่ก็ควรได้รับอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนในปริมาณที่เหมาะสม และด้วยไซส์ที่เล็กทำให้มีอัตราเผาผลาญพลังงงานสูง ย่อยอาหารได้เร็ว แต่ขนาดกระเพาะอาหารเล็ก จึงควรให้น้อง ๆ กินอาหารในปริมาณน้อย แต่แบ่งเป็นหลายมื้อจะดีต่อการย่อยของพวกเค้าครับ 

ราคา: 20,000 - 50,000 บาท  (ราคาอาจพุ่งสูงถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

16. เจแปนนิส สปิตซ์ (Japanese Spitz)

น้องหมาขนสีขาวอีกรายที่น่ารักสุด ๆ  บอกเลยว่าบ้านไหนได้เลี้ยงแล้วจะไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน น้อง ๆ จะพาคนในบ้านสนุกได้ตลอดเวลา เพราะพวกเค้ารักการผจญภัย พลังงานล้น พร้อมจะไปกับคนในบ้านได้ทุกที่ นอกจากนี้เจ้าเจแปนนิส สปิตซ์ ยังถือว่าเป็นสุนัขที่ปรับตัวเก่งมาก ๆ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเข้าสังคมและความเป็นมิตร รับรองว่าเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ทำให้เหมาะมากที่จะเป็นสุนัขในครอบครัวครับ 

ลักษณะทั่วไป

• มีขนสียาว สีขาวทั่วทั้งตัว

• หัวตั้งตรง ทรงสามเหลี่ยม

• หางม้วนขึ้นคล้ายขนนก  

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• แม้จะตัวเล็กปุ๊กปิ๊ก แต่เจแปนนิสสปิตซ์มีเสียงเห่าที่ดังและชอบเห่ามาก

• คล่องแคล่ว ฉลาด  ฝึกได้ง่าย

• มีสัญชาติญาณการปกป้องตามธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม

• ชอบวิ่งเล่นในพื้นที่กว้าง รักการผจญภัย 

อาหารที่เหมาะสม: เจ้าหนูเจแปนนิส สปิตซ์ชอบวิ่งเล่น รักการผจญภัยเอามาก ๆ ดังนั้นควรเน้นให้สารอาหารที่ให้พลังงานสูง เน้นโปรตีนเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และอาหารที่มีกรดไขมัน Omega 3 และ 6 เพื่อรักษาสุขภาพผิวและขน ส่วนปริมาณการให้อาหาร สามารถแบ่งให้เป็น 2 มื้อ/วันก็เพียงพอแล้วครับ

ราคา: 20,000 - 40,000 บาท  (ขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

17. ค็อกเกอร์สแปเนียล (Cocker Spaniel)

บ้านไหนที่ต้องการสีสัน ต้องมาทำความรู้จักน้องหมาคลั่งรักเจ้าของอย่าง ค็อกเกอร์สแปเนียล น้องหมาพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ที่มีความเก่าแก่พอสมควรเลย นิยมเลี้ยงในชนชั้นสูง เพราะมีรูปลักษณ์แบบผู้ดี ขนยาวสวยดูง่า พร้อมกับใบหูที่ยาว ๆ ขนาบข้างแก้ม ส่วนนิสัยนั้น เรียกได้ว่า ติดเจ้าของที่สุด แถมยังชอบเห่ามาก ๆ ใครได้เลี้ยง ไม่มีคำว่าเหงาแน่นอน 

ลักษณะทั่วไป

• ขนหนา ยาว นุ่ม ดุจเส้นไหม

• ดวงตาดำกลมโต 

• ใบหูยาว ตก และกลม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ต้องการการเอาใจใส่มาก  ๆ เพราะน้องติดคนและขี้เหงา

• อ่อนโยน เป็นมิตร ไฮเปอร์ 

• ดั้งเดิมเป็นสุนัขนักล่า จึงต้องให้เค้าได้ใช้พลังงานทุกวันนะครับ

• เมื่อไหร่ที่รู้สึกไม่ปลอดภัยจะเก็บตัว และก้าวร้าว 

อาหารที่เหมาะสม: ค็อกเกอร์สแปเนียลนั้น ไม่ได้เป็นน้องหมาเลือกกิน เรียกได้ว่ากินได้ทุกอย่าง ขอเพียงแค่ให้น้องได้รับโภชนการครบถ้วนก็พอแล้วครับ และด้วยที่เป็นน้องหมาที่มีขนยาว อาจมีการเน้นสารอาหารจำพวก Omega 3 และ 6 เพิ่มเติม เพื่อดูแลขนนุ่ม ๆ ของน้อง ๆ ให้สวยสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา

ราคา: 15,000 - 30,000 บาท  (ขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

18. บาเซนจิ (Basenji)

บาเซนจิเป็นสายพันธุ์ที่มีมาอย่างยาวนาน ว่ากันว่าเคยเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของกษัตริย์ฟาโรห์อีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะเค้ามีรูปร่างสง่างามมาก มีคอยาว พวงหางม้วนงอ หน้าผากย่น มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นหมารักอิสระ แต่ก็สื่อสัตย์กับเจ้าของสุด ๆ น้อง ๆ อาจดูหยิ่ง เฉยชา ไม่ค่อยสนใจคนแปลกหน้า อาจต้องมีการฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่เด็ก ๆ นะครับ 

ลักษณะทั่วไป

• มีขนสั้น เรียบ เป็นมันเงา

• ใบหูตั้งตรง หน้าผากย่น 

• หางม้วนงอ 

• มีคอระหง สวยงาม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• เป็นสุนัขเงียบ ไม่ค่อยเห่า 

• ฉลาด ชอบผจญภัย แต่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง

• ต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ

• รักสะอาด ชอบทำความสะอาดตัวเองเหมือนแมว 

อาหารที่เหมาะสม: การดูแลน้อง ๆ บาเซนจิ นั้นก็เป็นหลักการสัตว์เลี้ยงโดยทั่วไปเลยครับ คือควรได้รับอาหารคุณภาพสูงสามารถแบ่งให้เป็น 2 มื้อ/วัน ที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของธัญพืชอย่าง ถั่วเหลือง ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายและทำให้ย่อยได้ยากมากขึ้นครับ 

ราคา: 30,000 - 60,000 บาท  (ราคาขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

19. มิเนเจอร์ ชเนาเซอร์ (Miniature Schnauzer)

มากันที่น้องหมาใบหน้าโดดเด่น อย่างน้องหมาพันธุ์มิเนเจอร์ ชเนาเซอร์ กันบ้าง สำหรับสายพันธุ์นี้ ไม่ว่าใครเห็นต่างก็ต้องจดจำน้อง ๆ ได้ง่าย เพราะหน้าเค้ามีคิ้วและมีขนยาวๆ ช่วงปากเหมือนมีหนวดและเครา น่าเอ็นดูเอามาก ๆ เลยใช่มั้ยหละครับ นอกจากนี้เจ้าชเนาเซอร์ถือเป็นน้องหมาที่มีคุณสมบัติที่จำเป็นครบถ้วนในการเป็นสุนัขครอบครัวเลย เพราะเค้ามีความภักดี ขี้เล่น และยังฉลาด ฝึกได้ง่ายอีกด้วยครับ 

ลักษณะทั่วไป

• มีคิ้ว ขนบนใบหน้ายาว เหมือนมีหนวดเครา

• หัวมีลักษณะเหมือนสี่เหลี่ยม 

• หูพับตกมาข้างหน้าโดยธรรมชาติ (ถ้าได้รับการดัดจะตั้งตรงได้)

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• มีความตื่นตัวตลอดเวลา ว่องไว คล่องแคล่ว 

• กล้าหาญ ไม่กลัวคน 

• เข้ากับเด็ก  ๆ  ได้ดี 

• ต้องการการออกกกำลังสม่ำเสมอ ประมาณ 30-40 นาที/วัน 

อาหารที่เหมาะสม: น้องหมาน้องหมาพันธุ์มิเนเจอร์ ชเนาเซอร์ไม่ได้ต้องการสารอาหารด้านไหนเป็นพิเศษ แต่เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ก็ควรได้รับอาหารสำหรับหมาขนาดเล็กที่มีคุณภาพดี อย่างการให้อาหารจำพวกโปรตีน ผัก และไขมันดี และอาจต้องระวังอาหารจำพวกธัญพืชเพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้ด้วยนะครับ 

ราคา: 20,000 - 40,000 บาท  (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

20. แจ๊ค รัซเซลล์ เทอร์เรียร์ (Jack Russell Terrier)

มาถึงน้องหมาน่ารักพันธุ์เล็กตัวสุดท้ายที่เราจะแนะนำสำหรับปี 2024 ก็คือหมาพันธุ์แจ๊ค รัซเซลล์ นั่นเอง น้องหมาพันธุ์นี้มีความปราดเปรียวและว่องไวสุด ๆ เรียกได้ว่าเจ้าของอาจจะวิ่งตามไม่ทันเลยก็ได้ เพราะเขามีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นนักล่าสุนัขจิ้งจอก! เพราะฉะนั้นบ้านไหนมีพื้นที่สวนให้วิ่งเล่น และอยากมีสุนัขพันธุ์เล็กคู่ใจไว้เฝ้าบ้านแล้วล่ะก็ แจ๊ค รัซเซลล์ ถือเป็นคำตอบที่ดีครับ

ลักษณะทั่วไป

• ตัวเล็ก แต่ร่างกายปราดเปรียว เคลื่อนที่เร็ว

• มีลักษณะขนแตก หรือเรียกว่า Broken Coat ทำให้ขนไม่ค่อยร่วงมากนัก

• ตากลมโตบ้องแบ๊ว

นิสัยและไลฟ์สไตล์

• ฉลาด เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของได้ดี

• ถูกนิยามว่าเป็นนักล่าอารมณ์ดี แต่อย่าให้สัตว์ชนิดไหนหลุดเข้ามาในบ้านเชียวหล่ะ

• กระตือรือร้น ชอบวิ่งเล่นรอบบ้าน และบางตัวชอบขุด เป็นผลมาจากสัญชาตญาณนักล่า

• แนะนำว่าสุนัขพันธุ์นี้เหมาะกับเจ้าของที่มีความแอคทีฟ สามารถออกกำลังกายนอกบ้านกับน้องหมาได้
  

อาหารที่เหมาะสม: อาหารที่มีพลังงานสูงและคุณค่าโภชนาการเพียงพอ คือสิ่งที่จำเป็นสุด ๆ สำหรับสุนัขพันธุ์แจ๊ค รัซเซลล์ โดยปริมาณโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันอาจจะต้องมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่นหน่อย แต่ก็ต้องเป็นอาหารสุนัขที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ไม่ใช่ By-product หรือเศษอาหารเหลือใช้แปรรูป อย่างไรก็ตาม เมื่อน้องหมาเริ่มมีอายุมากขึ้น ก็อาจจะต้องลดปริมาณอาหารลงตามความเหมาะสม

ราคา: 4,000 - 20,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)

---

สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหนดี ทาง Yora Thailand หวังว่าบทความ 20 หมาพันธุ์เล็กแสนน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับปี 2024 นี้ จะช่วยให้ทุกคนเจอสุนัขพันธุ์ที่ถูกใจกันนะครับ หลังจากตัดสินใจเลือกน้องหมาได้แล้ว ก็อย่าลืมหาข้อมูลการดูแลสุนัขแต่ละสายพันธุ์เพิ่มเติมอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกิน ควรเลือกอาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยม ที่ผลิตจากวัตถุดิบมีคุณภาพเต็มอย่างเม็ดเต็มหน่วย หลีกเลี่ยงอาหารสัตว์ทั่วไปที่มีส่วนผสมของเศษอาหารเหลือทิ้งแปรรูปกันด้วยนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาและความยั่งยืนต่อโลกของเรา