สุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ อาหาร วิธีเลี้ยง [พร้อมราคา]

ข้อมูลทั่วไปสำหรับสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

ใครที่กำลังมองหาน้องหมาที่ทั้งเท่ ฉลาด แถมยังรักเจ้าของสุดหัวใจ สุนัขสายพันธุ์ โดเบอร์แมน พินสเชอร์ อาจจะเป็นคู่หู 4 ขาที่เพื่อน ๆ กำลังตามหาอยู่! สุนัขสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีดีแค่ลุคเข้ม ๆ ดูเท่เหมือนบอดี้การ์ดเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วน้อง ๆ ยังมีความอบอุ่น ซื่อสัตย์ และรักครอบครัวแบบสุด ๆ เลย

วันนี้ Yora Thailand ขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักน้องหมาโดเบอร์แมนให้มากขึ้น ตั้งแต่นิสัยใจคอ วิธีเลี้ยงดู อาหารที่เหมาะสม ไปจนถึงราคาคร่าว ๆ สำหรับใครที่กำลังเล็ง ๆ อยู่ว่าจะรับน้องมาเลี้ยงดีไหม อ่านจบแล้วอาจจะตกหลุมรักแบบไม่รู้ตัวก็ได้!

---

ภาพรวมน้องหมาโดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher) 

น้ำหนักเฉลี่ย	30-45 กิโลกรัม
ส่วนสูงเฉลี่ย	63-72 เซนติเมตร
อายุขัยเฉลี่ย	10-13 ปี
ลักษณะขน	ขนสั้นเรียบ ชั้นเดียว
สีขน	สีดำ ขาว น้ำตาลแดง ดำแต้มสีสนิม สีน้ำตาลอมเหลืองแต้มสีสนิม เทาแต้มสีสนิม น้ำตาลแดงแต้มสีสนิม
นิสัย	แสนรู้ ว่านอนสอนง่าย ตื่นตัว จงรักภักดี กล้าหาญ พลังเยอะ
โรคที่ต้องระวัง	โรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ (Hip Dysplasia) โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ (Wobbler’s Syndrome) โรคกระดูกอักเสบ (Panosteitis) ภาวะกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน (Gastric Dilatation Volvulus : GDV) ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) โรควอนวิลลิแบรนด์ (von Willebrand’s disease : vWD) ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy) โรคจอประสาทตาเสื่อม (progressive retinal atrophy) หูติดเชื้อ (Ear Infections) โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม (Intervertebral Disc Disease : IVDD) การเจริญผิดปกติของกระดูกสันหลังส่วนคอ (Wobbler’s Syndrome) โรคลมหลับ (Narcolepsy) ปัญหาระบบประสาทส่วนปลาย (Peripheral Neuropathy)

ประวัติของสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

ถ้าให้เล่าถึงประวัติของสุนัขโดเบอร์แมน ต้องย้อนไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่เมือง Apolda ประเทศเยอรมนี ชายชาวเยอรมันชื่อ หลุยส์ โดเบอร์มันน์ (Louis Dobermann) ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เก็บภาษี และต้องเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ ด้วยหน้าที่ที่เสี่ยง เขาจึงต้องการสุนัขคู่ใจที่ช่วยดูแลความปลอดภัยระหว่างทาง และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการเพาะพันธุ์สุนัขที่ทั้งกล้าหาญ ฉลาด และปกป้องเจ้าของได้ดีเยี่ยม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า “โดเบอร์แมน พินสเชอร์”

แม้จะไม่มีใครบันทึกไว้ชัดเจนว่าเขาผสมสายพันธุ์อย่างไร แต่ก็มีการคาดเดาว่าน่าจะเป็นการผสมกันของแมนเชสเตอร์ เทอร์เรียร์ (Manchester Terrier), ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler), เกรท เดน (Great Dane), เยอรมันพินสเชอร์ (German Pinscher), เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd) และอิงลิช เกรย์ฮาวด์ (English Greyhound) ซึ่งล้วนเป็นสุนัขที่แข็งแรง คล่องตัว และมีสัญชาตญาณในการปกป้องสูง

โดเบอร์แมนรุ่นแรกมีลักษณะล่ำสัน ใบหน้ากว้าง และกระดูกค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นที่เราเห็นกันในปัจจุบัน แต่หลังจากที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ต่อเนื่องโดยนักเพาะพันธุ์รุ่นหลัง ๆ ก็ได้ปรับให้รูปร่างของพวกเขาดูเพรียว สมส่วน และสง่างามมากขึ้น จนกลายเป็นโดเบอร์แมนในแบบที่หลายคนหลงรักในตอนนี้

โดเบอร์แมนเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่ปี 1899 และในปี 1908 ก็มีการนำเข้าสุนัขพันธุ์นี้ไปยังอเมริกาเป็นครั้งแรก พร้อมกับได้รับการจดทะเบียนกับสมาคม American Kennel Club (AKC) ในปีเดียวกัน ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้โดเบอร์แมนกลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ยอดนิยมทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

ก่อนจะตัดสินใจรับโดเบอร์แมนมาเลี้ยง การรู้จักนิสัยของน้องหมาสายพันธุ์นี้สักนิดก็ช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจน้องได้ดีขึ้นเยอ เพราะถึงภายนอกจะดูเข้ม ๆ แต่จริง ๆ แล้ว โดเบอร์แมนเป็นหมาที่น่ารัก ฉลาด และจงรักภักดีสุด ๆ

น้องเป็นสุนัขที่พลังงานล้น ต้องการการออกกำลังกายและกิจกรรมที่ท้าทายสมองอยู่เสมอ ไม่ใช่สายชิลนั่งเฉยทั้งวันแน่นอน ถ้าเจ้าของสามารถพาไปวิ่ง เดิน หรือฝึกคำสั่งเป็นประจำ รับรองว่าโดเบอร์แมนจะเป็นเพื่อนรู้ใจที่ทั้งเก่ง เฮลตี้ทั้งกายและใจเลย 

สิ่งที่โดดเด่นมากของน้องคือความภักดี โดบเบอร์แมนรักเจ้าของสุดหัวใจ และมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับครอบครัว ขณะเดียวกันก็เป็นหมาที่มีสัญชาตญาณในการปกป้องสูง แต่ไม่ต้องห่วงถ้าเลี้ยงอย่างเหมาะสม เพราะโดเบอร์แมนจะเรียนรู้แยกแยะได้ว่าอะไรคือภัยจริง อะไรคือเรื่องปกติ

อีกเรื่องที่สำคัญคือ การเข้าสังคม ยิ่งพาโดเบอร์แมนตัวน้อย ๆ ไปเจอคน เจอสัตว์อื่นตั้งแต่เด็ก เขาจะยิ่งเติบโตมาเป็นสุนัขที่มั่นใจ ไม่ขี้กลัว เป็นมิตร และเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ได้ดีมาก

และด้วยความที่โดเบอร์แมนฉลาดมาก การฝึกสายพันธุ์นี้จึงเป็นเรื่องสนุกมาก ๆ ถ้าใช้วิธีฝึกแบบให้รางวัลหรือชมเชย น้องจะตอบสนองดีมากกว่าการดุหรือลงโทษ และนั่นแหละคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เขาเรียนรู้ไวและกลายเป็นเพื่อนคู่ใจของบ้าน

มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีสำหรับสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

หากพูดถึงสุนัขโดเบอร์แมน ภาพแรกที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้นลุคเท่ ๆ สมาร์ท และสง่างาม ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของภาพลักษณ์เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว โดเบอร์แมนยังเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีมาตรฐานชัดเจนจากหลายสมาคมทั่วโลก เช่น American Kennel Club (AKC) และ Fédération Cynologique Internationale (FCI)

โดเบอร์แมน พินสเชอร์ เป็นสุนัขขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีรูปร่างเพรียว กล้ามเนื้อแน่น ดูสง่างามและทรงพลัง มาตรฐานสายพันธุ์ที่ดีจะต้องมีโครงสร้างสมดุล เคลื่อนไหวคล่องตัว และแสดงออกถึงความมั่นใจ พวกเขามีส่วนสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 68–72 เซนติเมตรสำหรับตัวผู้ และ 63–68 เซนติเมตรสำหรับตัวเมีย น้ำหนักจะอยู่ที่ราว 40–45 กิโลกรัมในตัวผู้ และ 32–35 กิโลกรัมในตัวเมีย ซึ่งอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามมาตรฐานแต่ละประเทศ

ศีรษะของโดเบอร์แมนมีลักษณะยาวเรียว สันจมูกตรง ปลายจมูกสีเข้ม ดวงตารูปอัลมอนด์สีเข้มแสดงความฉลาดและความตื่นตัว หูในบางประเทศอาจนิยมครอบให้ตั้งตรง แต่ปัจจุบันหลายแห่ง รวมถึงประเทศไทย เริ่มนิยมปล่อยให้ใบหูเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะพับตกอยู่ข้างใบหน้า ลำตัวของโดเบอร์แมนควรมีความลึกของอกพอเหมาะ เส้นหลังตรง มีกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกแข็งแรง ดูกระชับและพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวตลอดเวลา

หางโดยธรรมชาติของโดเบอร์แมนจะยาว แต่บางมาตรฐานอาจนิยมตัดให้สั้นตามธรรมเนียมแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ธรรมชาติมากขึ้น ทั้งในเรื่องของหางและใบหู

ขนของโดเบอร์แมนสั้น เรียบ แนบลำตัว ไม่ฟู และดูแลง่าย สีขนที่พบได้บ่อยคือสีดำแต้มจุดน้ำตาลหรือสีสนิม น้ำตาลแดง ขาว หรือสีแต้มน้ำตาล โดยจุดน้ำตาลจะปรากฏบริเวณเหนือดวงตา ข้างแก้ม หน้าอก ขา ใต้หาง และเท้า ซึ่งเป็นลวดลายเฉพาะของสายพันธุ์นี้

โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

แม้โดเบอร์แมนจะเป็นสุนัขที่ดูแข็งแรง สมาร์ท และพร้อมลุยอยู่เสมอ แต่จริง ๆ แล้ว สายพันธุ์นี้ก็มีโรคประจำพันธุ์ ที่เจ้าของควรรู้ไว้เพื่อดูแลน้องอย่างเหมาะสมและป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

เริ่มจากระบบโครงกระดูกและข้อต่อ โรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ (Hip Dysplasia) ถือเป็นโรคยอดฮิตในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่นเดียวกับโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเรียงตัวผิดปกติ (Wobbler’s Syndrome) ที่อาจทำให้น้องเดินเซหรือยืนลำบาก รวมถึงโรคกระดูกอักเสบ (Panosteitis) ซึ่งอาจเกิดในช่วงที่ลูกสุนัขกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

ระบบทางเดินอาหาร ก็มีโรคสำคัญที่ต้องระวังคือ ภาวะกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน (GDV) ซึ่งมีท้องโตผิดปกติ หายใจหอบ ลุกลำบาก อาจถึงขั้นช็อกหากไม่รักษาทัน เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว 

ด้านระบบต่อมไร้ท่อ โดเบอร์แมนมีความเสี่ยงต่อภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) ซึ่งอาจทำให้น้องมีอาการ ซึม น้ำหนักขึ้นง่าย หรือขนร่วง หากสังเกตว่าน้องมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ควรพาไปตรวจฮอร์โมนกับสัตวแพทย์

ระบบหัวใจและเลือด ก็เป็นอีกจุดสำคัญที่เจ้าของโดเบอร์แมนควรให้ความใส่ใจ เช่น โรควอนวิลลิแบรนด์ (von Willebrand’s disease : vWD) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด และโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม (Cardiomyopathy) ที่ทำให้น้องเหนื่อยง่าย หายใจถี่ ซึ่งโรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโดเบอร์แมน

โรคตาและหู ที่ควรระวัง เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy) ที่ทำให้การมองเห็นแย่ลง และอาการหูติดเชื้อ (Ear Infections) ที่พบได้บ่อยหากมีความชื้นหรือไม่ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม

กลุ่มโรคระบบประสาท ก็มีหลายภาวะที่พบในโดเบอร์แมน เช่น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม (IVDD), การเจริญผิดปกติของกระดูกสันหลังส่วนคอ (Wobbler’s Syndrome), โรคลมหลับ (Narcolepsy) ที่ทำให้น้องผล็อยหลับทันที และปัญหาระบบประสาทส่วนปลาย (Peripheral Neuropathy) ที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหว ขาไม่มีแรง เดินลากขา

อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

อาหารสำหรับลูกสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน ช่วงอายุ 1-3 เดือน

ในช่วงวัยเด็ก ลูกสุนัขโดเบอร์แมนจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ร่างกายต้องการพลังงานสูงและโปรตีนในปริมาณมากเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบภูมิคุ้มกัน ควรเลือกอาหารสูตรที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยให้กระดูกและข้อต่อแข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคข้อสะโพกในอนาคต

อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน โตเต็มวัย ช่วงอายุ 1 ปี

เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ โดเบอร์แมนยังคงต้องการพลังงานสำหรับการเคลื่อนไหวและรักษากล้ามเนื้อ แต่ไม่ควรให้โปรตีนและไขมันมากเกินไปจนทำให้น้ำหนักเกิน โดยทั่วไปควรเลือกอาหารที่มี โปรตีน 22–26% และไขมัน 12–15% เพื่อควบคุมน้ำหนักและคงความฟิต

แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงอย่างเนื้อไก่ ปลา แกะ หรือเนื้อกวาง เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสายพันธุ์นี้ ส่วนคาร์โบไฮเดรตควรเป็นประเภทที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ หรือข้าวโอ๊ต ก็ช่วยเสริมพลังงานโดยไม่ทำให้ระบบย่อยทำงานหนักเกินไป

สิ่งสำคัญคือการป้องกันภาวะกระเพาะอาหารบิด (Gastric Dilatation Volvulus หรือ GDV) ซึ่งพบบ่อยในสุนัขที่มีหน้าอกลึกอย่างโดเบอร์แมน แนะนำให้แบ่งอาหารเป็น 2–3 มื้อต่อวัน และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายทันทีหลังอาหาร นอกจากนี้ควรเลือกอาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขขนาดใหญ่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่ใส่สี กลิ่น หรือสารกันเสียสังเคราะห์

อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน สูงวัย อายุ 7 ปี ขึ้นไป

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ระบบเผาผลาญของสุนัขโดเบอร์แมนจะเริ่มช้าลง ความต้องการแคลอรีลดลง แต่ยังคงต้องการ โปรตีนคุณภาพดี เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ อาหารสำหรับสุนัขสูงวัยควรมีส่วนผสมของ กลูโคซามินและคอนดรอยตินซัลเฟต เพื่อช่วยดูแลข้อและกระดูก เสริมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ควรเลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูงพอเหมาะ เพื่อช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและขับถ่ายในวัยนี้

วิธีการดูแลสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

การดูแลลูกสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน ช่วงอายุ 4-7 เดือน

ช่วงวัยนี้ถือเป็นช่วงสำคัญในการวางรากฐานนิสัยและพฤติกรรมของน้องหมาโดเบอร์แมน เพราะน้องเริ่มมีพลังงานมากขึ้น อยากรู้อยากเห็น และเรียนรู้ได้ไวมาก เจ้าของจึงควรเริ่มฝึกพื้นฐานต่าง ๆ อย่างจริงจังตั้งแต่ตอนนี้

การฝึกควรเริ่มจากคำสั่งง่าย ๆ เช่น “นั่ง” “นอน” “มา” และ “เดินตาม” โดยใช้คำสั่งที่สั้น ชัดเจน และทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมให้รางวัล โดเบอร์แมนเป็นสุนัขที่ฉลาดมาก หากฝึกถูกวิธี เขาจะเรียนรู้ได้เร็วและสนุกกับการเรียนรู้ด้วย

นอกจากการฝึกแล้ว การเข้าสังคม ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ ควรพาน้องไปพบเจอผู้คน สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ และสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อให้น้องเติบโตมาเป็นสุนัขที่มั่นใจ ไม่ขี้กลัว และมีพฤติกรรมที่ดี นอกจากนี้ก๋ควรสร้างกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน เช่น เวลาให้อาหาร เวลาเล่น และเวลานอน จะช่วยให้น้องรู้สึกปลอดภัยและสงบขึ้น เพราะโดเบอร์แมนเป็นสุนัขที่ชอบความแน่นอนมีระเบียบในชีวิต

การดูแลสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนโตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป

เมื่อเข้าสู่วัยโตเต็มวัย โดเบอร์แมนจะมีพลังงานล้นเหลือและต้องการการดูแลที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของกิจกรรม การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพ

การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสายพันธุ์โดเบอร์แมน เมื่อโตเต็มวัย สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 40 นาที กิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การเดินเร็ว วิ่งจ๊อกกิ้ง เล่นโยนของ หรือฝึกเกมที่ใช้ทักษะและความคิด จะช่วยระบายพลัง ลดอาการเครียด และลดพฤติกรรมทำลายข้าวของในบ้านได้

ในด้าน สุขภาพ ควรพาน้องไปฉีดวัคซีนตามนัด ตรวจร่างกายประจำปี และดูแลช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ โดเบอร์แมนมีแนวโน้มจะเกิดปัญหาหัวใจ ข้อต่อ และโรคตับ ดังนั้นการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจึงจำเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้อย่าลืมให้ความสำคัญเรื่องที่อยู่อาศัย โดเบอร์แมนต้องการพื้นที่ที่กว้างพอให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ถ้ามีพื้นที่กลางแจ้ง เช่น สนามหรือสวน ควรมีรั้วสูงอย่างน้อย 6 ฟุต เพื่อความปลอดภัย และจัดมุมพักผ่อนให้น้องรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และไม่เครียด

ราคาหมาพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher)

สำหรับ ราคาลูกโดเบอร์แมนในไทย จะขึ้นอยู่กับหลายอย่างเลยครับ ทั้งสายเลือด การขึ้นทะเบียน และชื่อเสียงของฟาร์ม ถ้าเป็นน้องหมาจากฟาร์มทั่วไป ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000–30,000 บาท แต่ถ้าเป็นน้องที่มาจาก สายเลือดดี มีใบเพ็ดดีกรีชัดเจน ราคาก็จะขยับขึ้นมาที่ 35,000–60,000 บาท หรืออาจสูงกว่านั้น โดยเฉพาะถ้าเป็นโดเบอร์แมน สายแชมป์หรือนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาก็มีสิทธิ์แตะหลักแสนได้เลยเหมือนกัน

---

โดเบอร์แมน พินสเชอร์ คืออีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่เหมาะกับคนที่มองหาเพื่อนคู่ใจที่ทั้งฉลาด เท่ และจงรักภักดีแบบสุดหัวใจ ถึงจะดูเข้ม ๆ แต่จริง ๆ แล้วโดเบอร์แมนเป็นสุนัขที่อ่อนโยนกับคนในครอบครัวมาก ๆ สายพันธุ์นี้เหมาะกับคนที่พร้อมใส่ใจและดูแลอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึก การออกกำลังกาย การเข้าสังคม หรือการดูแลสุขภาพในระยะยาว การเข้าใจธรรมชาติของน้องในแต่ละช่วงวัย จะช่วยให้เราเลี้ยงเขาได้อย่างมีความสุขทั้งสองฝ่าย

และถ้าใครกำลังมองหาอาหารดี ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพของโดเบอร์แมนแบบครบด้าน ทั้งโปรตีนคุณภาพสูง ย่อยง่าย และอ่อนโยนต่อระบบย่อยของน้องหมาที่พลังงานเยอะ เราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขจากโปรตีนแมลง ที่ทั้งอร่อย ให้โปรตีนสูง และดีต่อโลก ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะครับ อาหารดี ๆ ที่เจ้าของสบายใจได้ ว่าน้องหมาจะได้รับสารอาหารครบถ้วน แข็งแรงจากภายใน พร้อมลุยทุกวันอย่างสดใสแน่นอน!