เช็คสัญญาณของสุนัขใกล้ตาย จะรู้ได้ยังไงว่าน้องใกล้จะจากไป

การมีสุนัขเป็นสมาชิกในครอบครัวนั้นเต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความสุขและความทรงจำดี ๆ มากมาย แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือวันที่เราต้องพบกับการจากไปของพวกเขา วันนี้ Yora Thailand จะพาพ่อ ๆ แม่ ๆ ไปการเรียนรู้และสังเกตสัญญาณเตือนว่าสุนัขของเรากำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของชีวิต จะช่วยให้เราเตรียมใจและดูแลพวกเขาได้อย่างดีที่สุดในวาระสุดท้าย

---

 ทำความเข้าใจเรื่องอายุขัยของสุนัข

ก่อนที่จะพูดถึงสัญญาณต่าง ๆ เราควรทำความเข้าใจเรื่องอายุขัยของสุนัขก่อน โดยทั่วไป น้องหมาจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-13 ปี แต่อาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ขนาด และการดูแล สุนัขพันธุ์เล็กมักมีอายุยืนกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ เมื่อสุนัขเข้าสู่วัยชรา (อายุประมาณ 7-8 ปีขึ้นไป) เราควรเริ่มสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด

สัญญาณทางกายภาพที่บ่งบอกว่าสุนัขใกล้จากไป

1. การเปลี่ยนแปลงของการกินอาหารและดื่มน้ำ

เมื่อสุนัขเข้าสู่ใกล้ช่วงแสงสุดท้าย ระบบการย่อยอาหารและความต้องการสารอาหารจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพื่อนๆ อาจเห็นได้ว่าสุนัขที่บ้านมีพฤติกรรมและอาการต่อไปนี้

เบื่ออาหารและไม่สนใจขนมที่เคยชอบ

• สุนัขอาจดมอาหารแล้วเดินหนี แม้จะเป็นอาหารที่เคยชอบมาก

• อาจแสดงความสนใจในตอนแรก แต่กินได้เพียงเล็กน้อยแล้วหยุด

• บางครั้งอาจต้องการให้เจ้าของป้อนอาหารให้ถึงจะยอมกิน

• ขนมที่เคยเป็นรางวัลโปรดไม่สามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้อีก

การกินอาหารที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

• เริ่มจากการกินอาหารน้อยลงทีละนิด จนสังเกตได้ว่าปริมาณอาหารที่กินต่อมื้อลดลงชัดเจน

• อาจมีการเลือกกินเฉพาะอาหารบางประเภท เช่น ยอมกินแต่อาหารเปียก

• น้ำหนักตัวอาจลดลงอย่างเห็นได้ชัด

• กล้ามเนื้อเริ่มฝ่อลง โดยเฉพาะบริเวณสันหลังและสะโพก

การดื่มน้ำที่ผิดปกติ

• บางตัวอาจดื่มน้ำมากผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคไต หรือเบาหวาน

• บางตัวอาจดื่มน้ำน้อยลงมาก จนเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ

• อาจมีอาการสับสนเวลาดื่มน้ำ เช่น ดื่มแล้วสำลัก หรือคายน้ำออกมา

ปัญหาในการเคี้ยวและกลืน

• อาจสังเกตเห็นว่าใช้เวลานานขึ้นในการเคี้ยวอาหาร

• มีอาการสำลักอาหารหรือน้ำบ่อยครั้ง

• อาจมีน้ำลายไหลมากผิดปกติ

• แสดงอาการเจ็บปวดเวลาพยายามกิน

2. การหายใจที่ผิดปกติ

การหายใจเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวม การเปลี่ยนแปลงของการหายใจมักสัมพันธ์กับปัญหาสุขภาพที่รุนแรง

หายใจถี่และตื้น

• การหายใจเร็วกว่าปกติ แต่ละครั้งตื้น ๆ เหมือนไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ

• อาจสังเกตเห็นการกระเพื่อมของช่องท้องที่เร็วผิดปกติ

• หน้าท้องและชายโครงขยับขึ้นลงเร็ว ๆ

• อาจมีอาการหอบ แม้ไม่ได้ออกกำลังหรืออยู่ในที่ร้อน

หายใจลำบากและมีเสียงผิดปกติ

• อาจได้ยินเสียงหวีด เสียงครืดคราด หรือเสียงกรน

• เห็นการใช้กล้ามเนื้อคอและซี่โครงมากขึ้นในการหายใจ

• ริมฝีปากหรือเหงือกอาจมีสีคล้ำลง

• แสดงท่าทางกระวนกระวายเวลาหายใจ

การหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ

• มีจังหวะการหายใจที่ไม่เป็นระเบียบ

• อาจมีช่วงที่หยุดหายใจชั่วขณะ

• หายใจเข้าลึกสลับกับหายใจตื้น

• อาจมีอาการสะอึก หรือหายใจสะดุดเป็นพัก ๆ

3. การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนไป

ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่ลดลงเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอของร่างกาย พ่อ ๆ แม่ ๆ อาจสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ได้ 

การเดินและการทรงตัว

• เดินโซเซ เหมือนคนเมา

• ขาหลังอาจลากหรือเดินลำบาก

• มักจะชนสิ่งของหรือเดินชนกำแพง

• อาจเดินเป็นวงกลมหรือเดินไม่ตรงทาง

ความยากลำบากในการลุกนั่ง

• ต้องใช้ความพยายามมากในการลุกขึ้นจากท่านอน

• อาจส่งเสียงครวญครางเวลาพยายามลุก

• บางครั้งต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าของในการลุกขึ้น

• อาจพยายามลุกหลายครั้งก่อนจะสำเร็จ

การนอนนิ่งเป็นเวลานาน

• ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอน

• ไม่ลุกไปดื่มน้ำหรือกินอาหารแม้จะวางไว้ใกล้ ๆ

• ตอบสนองช้าเมื่อเรียกให้ลุก

• อาจนอนในท่าเดิมเป็นเวลานานจนเกิดแผลกดทับ

อาการสั่นและกระตุก

• มีอาการสั่นแม้อากาศไม่หนาว

• กล้ามเนื้อกระตุกเป็นจังหวะโดยควบคุมไม่ได้

• อาจมีอาการชักเกิดขึ้น

• ขาอาจสั่นหรือกระตุกเวลาพยายามยืน

การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ที่บ่งบอกว่าสุนัขใกล้จากไป

การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมมักสะท้อนถึงสภาวะทางร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยนไป

1. การแยกตัวและความเฉื่อยชา

• มักหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกในบ้าน

• ไม่มาทักทายเจ้าของเหมือนเคย

• ไม่สนใจของเล่นหรือกิจกรรมที่เคยชอบ

• อาจเลือกนอนในที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยนอนมาก่อน

2. การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์

• อาจแสดงความก้าวร้าวเมื่อถูกรบกวน

• ไม่ต้องการการสัมผัสหรือการลูบไล้

• อาจร้องครวญครางโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

• แสดงอาการสับสน เช่น จำทางกลับบ้านไม่ได้

3. การสูญเสียการควบคุมการขับถ่าย

• อาจเกิดอุบัติเหตุในการขับถ่ายแม้เคยฝึกมาดีแล้ว

• ไม่แสดงสัญญาณเมื่อต้องการขับถ่าย

• อาจขับถ่ายในขณะนอนโดยไม่รู้ตัว

• มีการขับถ่ายบ่อยขึ้นหรือน้อยลงผิดปกติ

คำแนะนำ: หากเจ้าของพบสัญญาณเหล่านี้ ไม่ควรรอช้าที่จะพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ การวินิจฉัยและการรักษาแต่เนิ่น ๆ อาจช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานและยืดระยะเวลาที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสุนัขของเราได้

---

การดูแลสุนัขในช่วงท้ายของชีวิต

การดูแลด้านร่างกาย

การดูแลร่างกายสุนัขในช่วงท้ายของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาต้องการความช่วยเหลือในการทำกิจวัตรประจำวันมากขึ้น มาดูวิธีการดูแลในแต่ละด้านกันครับ

การจัดเตรียมพื้นที่พักผ่อน

การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะสุนัขจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนพักผ่อน

• เลือกที่นอนที่นุ่มและหนาพิเศษ เพื่อป้องกันแผลกดทับ โดยเฉพาะสำหรับสุนัขที่นอนนิ่งๆ เป็นเวลานาน

• จัดวางที่นอนในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป

• หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลมโกรก หรือแสงแดดส่องถึงโดยตรง

• อาจเตรียมผ้าห่มเบา ๆ ไว้ให้ในกรณีที่อากาศเย็น

• จัดพื้นที่ให้ห่างจากความวุ่นวาย แต่ยังสามารถมองเห็นกิจกรรมในบ้านได้

การดูแลความสะอาด

ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันการติดเชื้อและรักษาสุขภาพ

• ทำความสะอาดที่นอนและผ้าปูทุกวัน โดยเฉพาะถ้ามีการขับถ่ายโดยไม่ตั้งใจ

• เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณที่เปียกชื้น

• ดูแลความสะอาดบริเวณปาก ตา และหู เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

• หวีขนเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและตรวจสอบสภาพผิวหนัง

• ทำความสะอาดบริเวณที่มีการขับถ่ายทันทีที่พบ

การจัดการเรื่องอาหารและน้ำ

ในช่วงท้ายของชีวิต การได้รับสารอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก แม้ว่าน้องหมาที่บ้านอาจมีความอยากอาหารลดลง แต่คุณภาพของอาหารที่น้องได้รับควรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อาหารที่ย่อยง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเหมาะกับสภาพร่างกายของสุนัขสูงวัยจะช่วยให้น้องมีพลังงานและความแข็งแรงในการใช้ชีวิตช่วงเวลาที่เหลือ

Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับสุนัขในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอาหารสูตรสำหรับสุนัขสูงอายุ ที่ต้องการอาหารที่ย่อยง่าย ด้วยส่วนผสมจากโปรตีนแมลงคุณภาพสูง ไขมันต่ำ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้สารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพองค์รวมของน้องหมา 

นอกจากนี้ สำหรับสุนัขในวัยชรานั้น การเข้าถึงอาหารและน้ำอย่างสะดวกเป็นสิ่งจำเป็น เจ้าของสามารถจัดการการให้อาหารและน้ำได้โดย 

• วางชามอาหารและน้ำในระยะที่สุนัขเอื้อมถึงได้ง่ายจากที่นอน

• ยกชามอาหารให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กินได้สะดวก

• เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เพื่อให้มีน้ำสะอาดตลอดเวลา

• ปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะสมตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

• อาจต้องป้อนอาหารและน้ำด้วยมือในบางครั้ง

การดูแลด้านจิตใจ

การดูแลด้านจิตใจมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลร่างกาย เพราะสุนัขต้องการความรักและกำลังใจในช่วงเวลานี้

การให้เวลาและความเอาใจใส่

• จัดสรรเวลาพิเศษเพื่ออยู่เป็นเพื่อนสุนัข

• สังเกตภาษากายและความต้องการของสุนัข

• ให้ความสนใจแต่ไม่รบกวนเวลาพักผ่อน

• ทำกิจกรรมเบา ๆ ที่สุนัขยังสามารถร่วมได้

การสื่อสารและการแสดงความรัก

• พูดคุยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและให้กำลังใจ

• ใช้ภาษากายที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ตกใจ

• สัมผัสและลูบไล้เบาๆ ในจุดที่สุนัขชอบ

• แสดงความรักผ่านการอยู่เงียบ ๆ ข้าง ๆ 

การสร้างความสบายใจ

• รักษาตารางกิจวัตรประจำวันให้คงที่

• หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมกะทันหัน

• ให้สุนัขได้อยู่ในพื้นที่ที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย

• เคารพความต้องการความเป็นส่วนตัวของสุนัข

การเตรียมใจรับมือกับการสูญเสีย

การยอมรับความจริงว่าสุนัขของเรากำลังจะจากไปเป็นเรื่องยาก แต่การเตรียมใจล่วงหน้าจะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลานี้ไปได้

• พูดคุยกับคนในครอบครัว

• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น

• ทำความเข้าใจกับเด็กๆ ในบ้าน

• เก็บภาพและความทรงจำดี ๆ

• ให้เวลากับการเยียวยาจิตใจ

---

การสังเกตสัญญาณเตือนว่าสุนัขกำลังจะจากไปอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เราเศร้าใจ แต่การรู้และเข้าใจสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถดูแลพวกเขาได้ดีที่สุดในช่วงเวลาสุดท้าย การใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีคุณภาพ การแสดงความรักและความห่วงใย และการเตรียมใจยอมรับการจากไป จะช่วยให้ทั้งเราและสุนัขที่รักผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันอย่างสงบและอบอุ่น

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ร่างกายของพวกเขาจะจากไป แต่ความทรงจำดี ๆ และความรักที่มีต่อกันจะอยู่ในใจเราตลอดไป การดูแลพวกเขาอย่างดีที่สุดในวาระสุดท้าย ทั้งด้านจิตใจ ร่างกาย และโภชนาการ คือการแสดงความรักที่แท้จริงต่อเพื่อนสี่ขาที่แสนพิเศษของเรา ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำมาจากโปรตีนแมลง ย่อยง่าย ให้โภชนาการสูง เหมาะกับน้องหมาทุกสายพันธุ์และทุกช่วงอายุ ไว้ด้วยนะครับ