สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ อาหาร วิธีเลี้ยง [พร้อมราคา]

ข้อมูลทั่วไปสำหรับสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ถ้าใครกำลังมองหาน้องหมาสายเท่ที่ทั้งฉลาด ดุดัน แต่ก็มีมุมน่ารักแบบอบอุ่นใจ ร็อตไวเลอร์นี่แหละ น่าจะตอบโจทย์สุด ๆ! สายพันธุ์นี้หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาในลุคเข้ม ๆ ดุ ๆ เหมือนบอดี้การ์ดประจำบ้าน แต่จริง ๆ แล้ว เค้าเป็นหมาที่รักเจ้าของมาก ขี้อ้อนเกินคาด และผูกพันกับคนในครอบครัวแบบแน่นแฟ้นสุด ๆ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ร็อตไวเลอร์ไม่ใช่น้องหมาขี้อ้อนจุ๊บจิ๊บเหมือนชิสุหรือปอม เค้าเป็นหมาที่ต้องการเจ้าของที่เข้าใจ มีวินัย และพร้อมดูแลจริงจัง เพราะเค้าฉลาด แข็งแรง และมีพลังเยอะมาก ถ้าได้ฝึกดี ๆ ตั้งแต่เล็ก บอกเลยว่าจะเป็นเพื่อนรู้ใจที่ทั้งเท่และน่ารักแบบไม่ไหว

วันนี้ Yora Thailand เลยอยากชวนเพื่อน ๆ มารู้จักร็อตไวเลอร์ให้มากขึ้น ตั้งแต่นิสัย ไลฟ์สไตล์ การดูแล อาหารที่เหมาะสม และราคาคร่าว ๆ สำหรับใครที่กำลังคิด ๆ อยู่ว่าจะรับน้องมาเลี้ยงดีไหม ลองไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์นี้กันก่อน แต่บอกเลยว่า มีสิทธิ์โดนน้องตก ทันทีที่อ่านจบเลยก็ได้!

ภาพรวมน้องหมาร็อตไวเลอร์ (Rottweiler) 

น้ำหนักเฉลี่ย	30-60 กิโลกรัม
ส่วนสูงเฉลี่ย	56-69 เซนติเมตร
อายุขัยเฉลี่ย	8-10 ปี
ลักษณะขน	ขนสองชั้น ยาวปานกลาง
สีขน	สีดำสนิม สีดำมาฮ็อกกานี และสีแทน
นิสัย	แสนรู้ เชื่อฟังมาก นิ่ง สงบ จงรักภักดี กล้าหาญ พลังเยอะ
โรคที่ต้องระวัง	ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism)  ภาวะกระเพาะอาหารบิดตัว (Gastric Dilatation-Volvulus​ : GDV) โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ (Aortic Valve Stenosis)  ภาวะกระดูกสันหลังส่วนคอทับไขสันหลัง (Wobbler Syndrome) Panosteitis (Growing Pain) ข้อสะโพกและข้อศอกเจริญผิดปกติ (Hip & Elbow Dysplasia) OCD (Osteochondritis Dissecans) เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด (Cranial Cruciate Ligament Rupture) ข้ออักเสบ (Arthritis) มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma)

---

ประวัติของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

รู้ไหมว่าเจ้าหมาร็อตไวเลอร์ ตัวล่ำ ๆ ที่เราคุ้นตากัน มีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคโรมันเลย! ต้นตระกูลของเค้าคือสุนัขพันธุ์ Molossus ซึ่งเป็นหมาทหารของโรมันโบราณ ที่คอยเดินทางไปกับกองทัพ ทำหน้าที่ทั้งต้อนฝูงสัตว์ ลากของ และเฝ้ายาม ต่อมาพอสุนัขกลุ่มนี้เดินทางมาถึงเมืองรอตไวล์ (Rottweil) ในเยอรมนี ก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์ ผสมกับกับสายพันธุ์ท้องถิ่นเพื่อให้เหมาะกับงานหนัก ๆ มากขึ้น ทั้งลากเกวียน เฝ้าปศุสัตว์ และคุ้มกันสินค้าของพ่อค้าในสมัยก่อน จนได้กลายมาเป็นสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ แบบที่เราเห็นทุกวันนี้ 

ด้วยนิสัยที่ฉลาด แข็งแรง และจงรักภักดี ทำให้ร็อตไวเลอร์กลายมาเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ยอดนิยมสำหรับงานตำรวจ K-9 งานค้นหา กู้ภัย หรือแม้แต่เป็นหมาทหารในบางประเทศ และทุกวันนี้ก็ยังเป็นทั้งเพื่อนซี้และบอดี้การ์ดประจำบ้านของใครหลาย ๆ คน ถ้าได้รับการฝึกที่ถูกต้องและการดูแลที่เหมาะสม

ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ถ้าพูดถึงนิสัยของน้องหมาร็อตไวเลอร์ หลายคนอาจติดภาพว่าน้องหมาพันธุ์นี้ดุ ขรึม หรือเข้าถึงยาก เพราะหน้าตาและรูปร่างที่ดูจริงจังสุด ๆ แต่เอาจริง ๆ แล้ว เค้าเป็นหมาที่นิสัยน่ารักและอบอุ่นมาก โดยเฉพาะกับเจ้าของหรือคนในครอบครัว ร็อตไวเลอร์เป็นหมาที่จงรักภักดีสุด ๆ แบบว่าอยู่ข้างเราตลอดเวลาจริง ๆ แถมยังฉลาด เรียนรู้ไว และมีความเป็นนักปกป้องในตัวสูงมาก ถ้าใครอยากได้หมาที่คอยดูแลบ้านหรือเตือนภัยเวลาเจออะไรผิดปกติ เค้าคือสายพันธุ์ที่ใช่เลย 

แต่ในขณะเดียวกัน ร็อตไวเลอร์ก็เป็นหมาที่ต้องการ เจ้าของที่มีภาวะผู้นำ พอสมควร เพราะเค้าจะเคารพและเชื่อฟังคนที่มีความมั่นคง ใจเย็น และฝึกเขาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเลี้ยงแบบตามใจหรือไม่ตั้งกฎชัดเจน น้องอาจจะเริ่มตั้งกฎของตัวเองแทนได้นะ อีกเรื่องที่ต้องรู้คือ ร็อตไวเลอร์มักจะมีนิสัยขี้ระแวงกับคนแปลกหน้า เพราะเค้ารู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องปกป้องบ้านและคนที่เขารัก เลยต้องฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่เด็ก จะได้ไม่ตื่นคนง่ายหรือแสดงท่าทีดุโดยไม่จำเป็น

โดยรวมแล้ว ถ้าเลี้ยงด้วยความเข้าใจ มีเวลาฝึก และพร้อมจะสร้างความผูกพันไปด้วยกัน ร็อตไวเลอร์จะเป็นเพื่อน 4 ขาที่ไม่ใช่แค่เท่ แต่ยังน่ารักและน่าไว้ใจแบบสุด ๆ เลย

มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีสำหรับสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ถ้าพูดถึงร็อตไวเลอร์ที่ได้มาตรฐานสายพันธุ์แบบเป๊ะ ๆ ทั้งในสายตาของนักเลี้ยงหมาและในสนามประกวด จะต้องมีลักษณะร่างกายที่ดูแข็งแรง มั่นคง และสมดุลทุกส่วน ซึ่งความโดดเด่นของเค้าไม่ได้อยู่แค่ล่ำ ๆ อย่างเดียว แต่ทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดหางคือดูแล้วรู้เลยว่า น้องพร้อมลุย!

• หัว: ต้องใหญ่ได้รูป หน้าผากกว้าง มีความโค้งรับกับโครงหน้าแบบชัดเจน ทำให้ดูมีพลังและน่าเกรงขามในแบบธรรมชาติ ไม่ต้องพยายามอะไรเยอะ

• ใบหน้า: องค์ประกอบบนใบหน้าตามมาตรฐานคือ มีจมูกใหญ่สีดำ ฟันล่างยื่นกว่าฟันบนเล็กน้อย ปากห้อยแต่ต้องยาวพอดีกับขนาดหัว โหนกแก้มชัด

• ดวงตา: ตาลึก สีน้ำตาลเข้ม ทรงอัลมอนด์ แววตามั่นใจ นิ่ง ๆ แบบมองแล้วรู้เลยว่าน้องกำลังจับตามองทุกอย่างรอบตัวอย่างมีสติ

• หู: เป็นหูตกทรงสามเหลี่ยมที่แนบไปกับแก้ม ฐานตั้งอยู่บนสุดของหัว ทำให้ลุคน้องดูนิ่ง สุขุม และน่าเชื่อถือ

• ลำตัว: จุดเด่นมาก ๆ ของร็อตไวเลอร์คือหลังตรง ลำตัวล่ำแน่น กล้ามเนื้อชัดเจน โดยเฉพาะช่วงอกที่กว้าง ลึก และสะโพกสั้นและลึก ดูแล้วบึกบึนสุด ๆ

• หาง: หางสั้นทรงบ​๊อบ หรือ Stumpy Tail บางบ้านอาจตัดสั้นเพิ่มอีก แต่ในบางประเทศก็มีกฎห้ามตัดหางน้อง ซึ่งก็สะท้อนธรรมชาติของสายพันธุ์ได้ดีมากๆ 

• ขน: ขนของร็อตไวเลอร์จะสั้น เรียบแน่น แนบลำตัว สีน้ำตาลดำเข้มดูเงางาม โดยมีแต้มสีน้ำตาลแดงชัด ๆ ตรงบริเวณคิ้ว แก้ม หน้าอก และขาทั้งสี่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่า นี่คือ ร็อตไวเลอร์!

โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ถึงร็อตไวเลอร์จะเป็นหมาพันธุ์ใหญ่ที่ดูแข็งแรงสุด ๆ แต่น้องก็มีโรคประจำสายพันธุ์ที่เจ้าของควรรู้ไว้เหมือนกัน เพราะบางโรคอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือเกิดจากโครงสร้างร่างกายที่เฉพาะตัวของเค้าเอง ถ้าเรารู้ทัน ก็จะสามารถดูแลและป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

• ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) ส่งผลต่อการเผาผลาญของร่างกาย น้องจะดูซึม ขนร่วงง่าย น้ำหนักขึ้นแม้กินเท่าเดิม และดูไม่ค่อยสดใส สามารถพาน้องไปตรวจเลือดเพื่อเช็กได้ว่าน้องมีภาวะนี้หรือไม่ และสามารถควบคุมได้ด้วยการให้ฮอร์โมนเสริม

  อ่านต่อ: อย่าปล่อยให้น้องหมาอ้วนเกินไป! เช็คสัญญานเสี่ยงโรคอ้วนในสุนัข 

• ภาวะกระเพาะอาหารบิดตัว (Gastric Dilatation-Volvulus​ : GDV) ภาวะกระเพาะอาหารบิดตัว เป็นหนึ่งในโรคฉุกเฉินที่อันตรายมาก เกิดได้จากการกินอาหารหรือดื่มน้ำเร็วเกินไป แล้วไปวิ่งหรือเล่นหนักทันที ทำให้กระเพาะพองตัวและบิดตัว อาการคือ ท้องโต หายใจหอบ อาเจียนไม่ออก ถ้าไม่พาไปหาหมอทันเวลา มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง

• โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ (Aortic Valve Stenosis) เป็นโรคที่เกี่ยวกับการตีบแคบของลิ้นหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนออกจากหัวใจได้น้อยลง ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น อาการที่พบได้ เช่น หอบง่าย เหนื่อยเร็วกว่าปกติ บางตัวอาจถึงขั้นเป็นลมเฉียบพลัน โดยเฉพาะเวลาตื่นเต้นหรือออกแรงเยอะ

• ภาวะกระดูกสันหลังส่วนคอทับไขสันหลัง (Wobbler Syndrome) โรคนี้มักเกิดจากกระดูกสันหลังบริเวณคอผิดรูปหรือกดทับไขสันหลัง ทำให้ส่งผลต่อการเดินหรือการเคลื่อนไหวของน้อง อาการที่เห็นได้ชัดคือ เดินเซ ขาอ่อนแรง หรือบางครั้งจะเดินเหมือนขาหลังลาก ถ้าปล่อยไว้นานอาจกลายเป็นอัมพาตได้เลย

• Panosteitis (Growing Pain) เป็นอาการปวดกระดูกในลูกสุนัขช่วงโตไว โดยเฉพาะในช่วงอายุ 5–18 เดือน มักพบในกระดูกขายาว เช่น กระดูกขาหน้า–ขาหลัง น้องอาจเดินกะเผลกสลับข้าง หรือเดินแบบลังเล ปกติอาการจะดีขึ้นเมื่อโตเต็มวัย แต่ควรให้สัตวแพทย์ตรวจเพื่อความชัวร์

• ข้อสะโพกและข้อศอกเจริญผิดปกติ (Hip & Elbow Dysplasia) เป็นโรคยอดฮิตของหมาพันธุ์ใหญ่เลย เกิดจากข้อสะโพกหรือข้อศอกที่พัฒนาไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เด็ก ทำให้ข้อหลวม เดินผิดปกติ และปวดเรื้อรัง เมื่อโตขึ้นอาจกลายเป็นข้อเสื่อม ต้องรักษาด้วยยา หรือในบางรายต้องผ่าตัด

• OCD (Osteochondritis Dissecans) เป็นภาวะที่ผิวกระดูกอ่อนบางส่วนตาย เกิดการขาดเลือกในชั้นใต้กระดูกออก ส่งผลให้น้องขยับตัวแล้วเจ็บ เคลื่อนไหวติดขัด หรือเดินขาแข็ง ต้องสังเกตดี ๆ เพราะน้องอาจไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก

• เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด (Cranial Cruciate Ligament Rupture) เอ็นตัวนี้มีหน้าที่ช่วยพยุงข้อเข่า เวลาเดินหรือวิ่ง ถ้าขาดจะทำให้น้องเดินกะเผลกทันที เจอบ่อยในสุนัขที่กระโดดหรือออกแรงเร็ว ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว บางรายต้องผ่าตัดรักษา

• ข้ออักเสบ (Arthritis) โรคนี้มักเกิดในสุนัขสูงวัย ข้อเริ่มเสื่อม ปวด และอักเสบ น้องจะเริ่มขยับตัวน้อยลง ลุกช้า หรือไม่ค่อยอยากเดิน ถ้าเจอตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถชะลอการเสื่อมและดูแลได้ด้วยอาหารเสริมและการควบคุมน้ำหนัก

• มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma) เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในร็อตไวเลอร์ โดยเฉพาะตัวโต ๆ วัยกลางถึงสูงอายุ อาการคือมีการบวมที่ขา เดินผิดปกติ เจ็บกระดูกเรื้อรัง โรคนี้มักลุกลามเร็วมาก ดังนั้นถ้าน้องมีอาการต้องพาไปตรวจโดยเร็วที่สุด

อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

อาหารสำหรับลูกสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ช่วงอายุ 1-3 เดือน

ในช่วงวัยเบบี๋ ร่างกายของลูกหมาร็อตไวเลอร์กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงต้องการอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน แคลเซียม และฟอสฟอรัสในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และพัฒนาการโดยรวม อาหารที่แนะนำคือสูตรเฉพาะสำหรับลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ เพราะจะช่วยควบคุมอัตราการเติบโตให้สมดุล ไม่เร็วเกินไปจนเสี่ยงต่อโรคข้อ นอกจากนี้ควรแบ่งให้น้องกินวันละ 3-4 มื้อ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่

อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ โตเต็มวัย ช่วงอายุ 1 ปี

ช่วงนี้ถือเป็นวัยที่น้องร็อตไวเลอร์มีพลังงานสูง ต้องการสารอาหารมากขึ้นสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและรักษาสมดุลของร่างกาย อาหารที่แนะนำคืออาหารสูตรเฉพาะสำหรับสุนัขโตเต็มวัยสายพันธุ์ใหญ่ หรือควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี เช่น จากเนื้อสัตว์ ไขมันในปริมาณเหมาะสม และเสริมวิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะกลูโคซามีนและคอนดรอยติน ที่ช่วยบำรุงข้อให้แข็งแรง ส่วนคาร์โบไฮเดรตควรเลือกจากแหล่งย่อยง่าย เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะน้ำหนักเกิน ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นวันละ 2-3 มื้อ ในปริมาณที่พอดี ไม่ควรให้อิ่มจัดจนเกินไป เพราะเสี่ยงต่อภาวะกระเพาะบิดตัว (GDV)

อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ สูงวัย อายุ 7 ปี ขึ้นไป

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ ระบบการเผาผลาญของเจ้าหมาร็อตไวเลอร์จะเริ่มช้าลง ทำให้ต้องปรับสูตรอาหารสำหรับหมาสูงวัย เพื่อให้เหมาะกับความต้องการที่เปลี่ยนไป โดยเน้นอาหารที่มีไขมันต่ำ ใยอาหารสูง เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น โปรตีนยังจำเป็นเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ แต่ไม่ควรสูงจนเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อไต นอกจากนี้ยังควรเลือกสูตรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงข้อ เพราะช่วงนี้น้องหมาอาจเริ่มมีอาการข้อเสื่อมให้เห็นบ้างแล้ว 

วิธีการดูแลสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ร็อตไวเลอร์เป็นหมาที่ทั้งฉลาด แข็งแรง และมีความเป็นนักปกป้องในตัวสูง การเลี้ยงดูให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้น้องเติบโตมาอย่างสมดุล มีสุขภาพดี และมีนิสัยที่เข้ากับชีวิตในบ้านได้แบบไม่มีปัญหา มาดูกันว่าในแต่ละวัย เราควรดูแลร็อตไวเลอร์ยังไงบ้าง

การดูแลลูกสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ช่วงอายุ 4-7 เดือน

ช่วงวัยนี้คือช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับการวางรากฐานนิสัย น้องจะเริ่มเรียนรู้โลกกว้าง ซนบ้าง ดื้อบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เราจึงควรเริ่มฝึกวินัยเบื้องต้น เช่น การนั่ง รอ เดินขนาบข้าง และการเข้าห้องน้ำให้เป็นที่ เพื่อให้น้องรู้ขอบเขตและอยู่ร่วมกับคนในบ้านได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญคือต้องพาน้องเข้าสังคมบ่อย ๆ ให้เจอทั้งคนแปลกหน้าและสัตว์อื่น เพื่อให้ร็อตไวเลอร์ไม่โตมาเป็นหมาขี้ระแวงหรือหวาดกลัว นอกจากนี้ ควรดูแลเรื่องอาหารและสุขภาพอย่างใกล้ชิด รวมถึงพาไปฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพตามกำหนด เพราะร่างกายน้องยังพัฒนาไม่เต็มที่

การดูแลสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์โตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป

ช่วงนี้คือวัยที่พลังงานของร็อตไวเลอร์พุ่งสูงมาก ทั้งแข็งแรง คล่องแคล่ว และเรียนรู้ได้ไว เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการฝึกทักษะขั้นสูง เช่น การสอนให้เชื่อฟังคำสั่งในสถานการณ์ต่าง ๆ การเดินกับสายจูงโดยไม่ดึง และการควบคุมตัวเองในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังควรให้ร็อตไวเลอร์ได้ออกกำลังกายทุกวัน วันละอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือวิ่งเบา ๆ เพื่อระบายพลังงานและป้องกันภาวะเครียด น้องควรได้รับอาหารที่เหมาะกับช่วงวัย และควรมีเวลาสื่อสารหรือเล่นกับเจ้าของผ่านการเล่น ฝึก หรือกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างสายสัมพันธ์และลดพฤติกรรมก้าวร้าวจากความเบื่อหรือความเครียด 

ราคาหมาพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

สำหรับใครที่กำลังเล็ง ๆ ว่าจะรับน้องร็อตไวเลอร์มาอยู่ด้วยสักตัว เรื่องราคาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะหมาพันธุ์นี้มีหลายระดับราคา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ ความบริสุทธิ์ของสายเลือด ใบเพ็ดดีกรี ฟาร์มที่เพาะพันธุ์ รวมถึงประวัติพ่อแม่ของน้อง

โดยทั่วไปร็อตไวเลอร์ที่ไม่มีใบเพ็ดดีกรี (Pedigree) หรือเอกสารรับรองสายพันธุ์จากสมาคม จะมีราคาค่อนข้างย่อมเยา เหมาะสำหรับคนที่อยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หรือเลี้ยงเฝ้าบ้าน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,000–15,000 บาท ขึ้นอยู่กับสุขภาพและรูปร่างของลูกสุนัขแต่ละตัว

ถ้าเป็น ร็อตไวเลอร์ที่มีใบเพ็ดดีกรี จากสมาคม เช่น สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย (KCTH) หรือ FCI ซึ่งรับรองว่าน้องมีสายพันธุ์แท้แน่นอน จะมีราคาสูงขึ้น โดยจะอยู่ที่ประมาณ 20,000–40,000 บาท และถ้าเป็นลูกของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่เคยชนะการประกวด ก็อาจขยับราคาขึ้นอีกเล็กน้อย

ส่วนใครที่อยากได้น้องที่มาจาก ฟาร์มคุณภาพหรือสายพันธุ์นำเข้า จากต่างประเทศ เช่น เยอรมนี หรือฟาร์มระดับแชมป์ในไทย ราคาจะสูงกว่า โดยอาจอยู่ในช่วง 50,000–100,000+ บาท ซึ่งแน่นอนว่าราคานี้มาพร้อมกับความมั่นใจในสายเลือด รูปลักษณ์นิสัย และสุขภาพที่ฟาร์มจะดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ยังเล็ก

สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าดูแค่เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว แนะนำให้เลือกฟาร์มที่มีความน่าเชื่อถือ เปิดให้เข้าชมสถานที่จริงได้ และมีเอกสารรับรองสุขภาพ รวมถึงประวัติพ่อแม่พันธุ์อย่างโปร่งใส เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ลูกสุนัขที่แข็งแรง เลี้ยงง่าย และไม่มีปัญหาสุขภาพตามมาทีหลังครับ

---

ร็อตไวเลอร์อาจดูเป็นหมาพันธุ์ใหญ่ที่ดูจริงจัง เคร่งขรึม หรืออาจจะดุดันในสายตาใครหลายคน แต่เบื้องหลังลุคเข้ม ๆ นั้นคือหัวใจที่แสนจะอบอุ่น ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของแบบสุดๆ ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของเค้าในแต่ละช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแล ฝึกวินัย หรือการเลือกอาหารที่เหมาะกับความต้องการของร่างกาย ก็บอกได้เลยว่าการเลี้ยงร็อตไวเลอร์ไม่ได้เหนื่อยเกินไปหรือน่ากลัวอย่างที่คิดเลยครับ

และถ้าใครกำลังมองหาอาหารดี ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพของร็อตไวเลอร์แบบรอบด้าน ทั้งโปรตีนคุณภาพสูง ย่อยง่าย และอ่อนโยนต่อระบบย่อยของน้องหมาสายลุยที่ใช้พลังงานเยอะ เราก็ขอฝาก Yora  อาหารสุนัขจากโปรตีนแมลงไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนะครับ อร่อย ย่อยง่าย ให้โปรตีนสูง แถมยังดีต่อโลกอีกด้วย!

อาหารดี ๆ ที่เจ้าของมั่นใจได้ว่าน้องจะได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลข้อต่อ และแข็งแรงจากภายใน พร้อมเป็น บอดี้การ์ดประจำบ้านที่สดใสในทุกวัน!