top of page
Search

เช็ก 15 สัญญาณที่บอกว่าน้องหมากำลังป่วย พร้อมคู่มือดูแลสำหรับเจ้าของ

Updated: Mar 23



น้องหมาป่วย ไม่สบาย แต่พูดไม่ได้ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเขากำลังป่วย? 


น้องหมาเป็นเพื่อนรักแสนซื่อสัตย์ของใครหลาย ๆ คน แต่พวกเขาไม่สามารถบอกเราได้ว่ากำลังรู้สึกไม่สบาย เจ็บตรงไหน หรือมีอะไรผิดปกติ สิ่งที่เจ้าของอย่างเราทำได้ คือ สังเกต พฤติกรรมและอาการต่าง ๆ ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าบางอย่างไม่ปกติ 


วันนี้ Yora Thailand จะพาคุณไปเช็กลิสต์ 15 สัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าน้องหมากำลังป่วย พร้อมคู่มือดูแลเบื้องต้นที่เจ้าของควรรู้ เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ รับมือได้อย่างถูกวิธี และดูแลเพื่อนสี่ขาตัวน้อยให้กลับมาแข็งแรงไว ๆ ตามไปดูกันเลย! 



 

สัญญาณที่ 1: อาเจียนหรือท้องเสียบ่อยครั้ง


หนึ่งในสัญญาณของอาการหมาป่วยที่เห็นได้ชัดเลยคือ การที่หมาอ้วกหรือท้องเสีย ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การกินอะไรแปลก ๆ เข้าไป ไปจนถึงโรคร้ายแรง ถ้าน้องหมาขอเพื่อน ๆ มีอาการเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ซึม เบื่ออาหาร มีสิ่งแปลกปลอมในอาเจียนหรืออุจจาระ เช่น เลือด มูกเมือก นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ หรือแม้แต่การอุดตันในทางเดินอาหาร


วิธีดูแลเบื้องต้น: งดอาหารให้น้องหมาชั่วคราวประมาณ 12-24 ชั่วโมง (แต่ถ้าเป็นลูกหมาควรปรึกษาหมอก่อนนะครับ) และอย่าลืมเตรียมน้ำสะอาดดื่มตลอดเวลา หลังจากนั้นค่อยเริ่มให้กินอาหารอ่อน ๆ อย่างข้าวต้มหรือไก่ต้ม ในปริมาณน้อย ๆ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ควรพาไปหาคุณหมอทันทีนะครับ


สัญญาณที่ 2: ปัสสาวะผิดปกติ


พ่อ ๆ แม่ ๆ เคยนับไหมว่าน้องหมาฉี่วันละกี่รอบ? เพราะการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการปัสสาวะในสุนัข ไม่ว่าจะฉี่บ่อยขึ้น น้อยลง ฉี่แล้วกลั้นไม่อยู่ หรือพยายามเบ่งแต่ฉี่ไม่ออกเลย ล้วนเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพน้องหมาที่เจ้าของต้องจับตามอง เพราะบางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับโรคไต เบาหวาน หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ 


วิธีดูแลเบื้องต้น: ลองจดบันทึกความถี่และลักษณะของปัสสาวะในแต่ละวันไว้ รวมถึงดูว่าน้องหมาดื่มน้ำมากหรือน้อยแค่ไหน หากพบว่าฉี่ผิดปกติ อย่างการพยายามฉี่แต่ไม่ออกเลย หรือ ปัสสาวะมีเลือดปน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นภาวะฉุกเฉินได้ครับ


สัญญาณที่ 3: เบื่ออาหาร


น้องหมาที่กินเก่งอยู่ดี ๆ แล้วจู่ ๆ ก็เมินอาหารแม้แต่มื้อโปรด อาจกำลังส่งสัญญาณบางอย่างอยู่ การเบื่ออาหารอาจเกิดจากปัญหาช่องปาก ระบบย่อยอาหาร หรือสุขภาพโดยรวมที่เริ่มมีปัญหา


วิธีดูแลเบื้องต้น: ลองตรวจช่องปากน้องหมาดูว่ามีเหงือกอักเสบ ฟันหัก หรือกลิ่นแปลก ๆ หรือไม่ บางทีการเปลี่ยนชามอาหารหรือเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหารก็ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ แต่ถ้ายังไม่ยอมกินนานเกิน 1-2 วัน แนะนำให้พาไปให้คุณหมอตรวจดีกว่าครับ


สัญญาณที่ 4: กินน้ำผิดปกติ


น้องหมาที่จู่ ๆ ก็ดื่มน้ำเยอะขึ้น หรือแทบไม่ดื่มเลย นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ไม่ควรมองข้ามนะครับเพราะอาจเกี่ยวข้องกับโรคไต เบาหวาน หรือแม้แต่โรคคุชชิ่ง ในทางกลับกัน ถ้าน้องไม่แตะน้ำเลย อาจแปลว่าร่างกายกำลังอ่อนแรงหรือป่วยหนักแล้วก็ได้


วิธีดูแลเบื้องต้น: หมั่นสังเกตพฤติกรรมการดื่มน้ำ เช็กว่าชามน้ำสะอาดและเข้าถึงง่ายหรือเปล่า ถ้าพฤติกรรมยังเปลี่ยนไปแบบผิดปกติต่อเนื่องนานกว่า 1-2 วัน ควรพาไปพบคุณหมอครับ


สัญญาณที่ 5: การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก


ไม่ว่าจะน้ำหนักขึ้นหรือลดลงเร็ว ๆ แบบไม่รู้สาเหตุ ล้วนเป็นสัญญาณที่ไม่ควรละเลย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าน้องหมาป่วยอยู่ครับ การที่น้องหมาน้ำหนักลดลงในเวลาสั้น ๆ อาจบ่งบอกถึงโรคเรื้อรัง เช่น ไต เบาหวาน หรือปัญหาการดูดซึมอาหาร ขณะที่น้ำหนักขึ้นอาจเป็นผลจากปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน ปัญหาต่อมไทรอยด์ ภาวะน้ำท่วมปอด หรือการสะสมของน้ำในร่างกาย


วิธีดูแลเบื้องต้น: ควรชั่งน้ำหนักน้องหมาเป็นประจำ และสังเกตควบคู่กับพฤติกรรมอื่น ๆ อย่างการกิน การดื่ม หรือการเล่น หากน้ำหนักเปลี่ยนไปมากกว่า 10% โดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน อย่ารอช้า ควรพาไปหาคุณหมอเลยครับ 





สัญญาณที่ 6: การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม


น้องหมาที่ป่วยมักมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการซึมลง แยกตัว ไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ หรือในทางตรงข้าม อาจกลายเป็นกระวนกระวาย กระสับกระส่าย หงุดหงิด นอนไม่หลับ หรือหรือขี้ตกใจ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างในร่างกายผิดปกติ อย่างการมีความเจ็บปวดหรือความไม่สบายที่ซ่อนอยู่


วิธีดูแลเบื้องต้น: พยายามสังเกตว่ามีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เช่น รูปแบบการนอน การกิน หรือพฤติกรรมอื่น ๆ ให้เวลาและพื้นที่แก่น้องหมา แต่ยังคงเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน หรือแย่ลงอย่างรวดเร็ว ควรพาไปพบสัตวแพทย์


สัญญาณที่ 7: ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ


ถ้าน้องหมาไอ จาม หายใจเสียงดัง หายใจเร็ว หรือหายใจลำบาก ดูเหนื่อยแม้ไม่ได้วิ่งเล่น อาจเป็นสัญญาณของอาการหมาป่วยที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจซึ่งอาจเกิดจากโรคหวัดทั่วไปไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น หวัด ปอดอักเสบ หรือโรคหัวใจ และหากน้องหอบหนัก หายใจทางปาก หรือหายใจเร็วผิดปกติ ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน!


วิธีดูแลเบื้องต้น: ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจควรได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว พาน้องไปอยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี เย็น และเงียบ ลดสิ่งกระตุ้นความเครียด หากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือดูน่ากังวล ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีครับ


สัญญาณที่ 8: ขนร่วงผิดปกติและมีอาการคัน


ขนที่เงางามและผิวหนังที่สะอาดเป็นสิ่งช่วยยืนยันสุขภาพที่ดีของน้องหมา ถ้าพ่อ ๆ แม่ ๆ สังเกตเห็นขนร่วงมากผิดปกติ (เกินกว่าการผลัดขนตามฤดูกาล) มีจุดโล้น ผื่นแดง ตุ่มน้ำ รอยแผล หรือน้องหมาเกาตัวบ่อย นี่อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ ปัญหาจากเห็บหมัด ภาวะภูมิแพ้ หรือแม้แต่ปัญหาฮอร์โมน


วิธีดูแลเบื้องต้น: ลองตรวจผิวหนังของน้องอย่างละเอียด ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ของคนกับน้องหมา หากพบตุ่ม แผล หรือมีหนอง แนะนำให้ไปหาหมอเพื่อวินิจฉัยและรับยารักษาให้เหมาะสมครับ


สัญญาณที่ 9: เคลื่อนไหวลำบาก


อาการลุกยาก เดินช้า ขาแข็ง ไม่อยากเดิน อาจเป็นสัญญาณของปัญหาข้อต่อ กล้ามเนื้อ หรือกระดูก เช่น โรคข้ออักเสบ การบาดเจ็บ การติดเชื้อ หรือกระดูกหัก โดยเฉพาะในสุนัขสูงวัย โรคข้อเสื่อมเป็นปัญหาพบบ่อยที่ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นเรื่องยากลำบาก


วิธีดูแลเบื้องต้น: สังเกตตำแหน่งที่อาจเจ็บปวด ลดกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ เช่น วิ่ง กระโดด หรือเดินนาน ๆ จัดที่นอนให้นุ่มและอยู่ในจุดที่เข้าถึงง่าย หากอาการไม่ดีขึ้นในไม่กี่วัน หรือมีอาการเจ็บร่วมด้วย ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดครับ


สัญญาณที่ 10: การเปลี่ยนแปลงของดวงตา


ดวงตาที่สะอาด ใส ไม่มีน้ำตาไหลหรือขี้ตามากผิดปกติ เป็นเครื่องหมายของสุขภาพที่ดี ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลง เช่น อาการตาแดง ตาขุ่น มีฝ้า น้ำตาไหลมาก ขี้ตามาก ตาบวม ตาเหล่หรือตาเข หรือน้องหมาขยี้ตาบ่อย ๆ สิ่งเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ โรคต้อ การอักเสบ หรือปัญหาที่ร้ายแรงกว่านั้น


วิธีดูแลเบื้องต้น: เช็ดรอบดวงตาด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ ระวังอย่าให้น้ำยาทำความสะอาดหรือสบู่เข้าตา ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน หรือน้องหมาดูเจ็บปวดมาก ควรพบสัตวแพทย์ด่วน เพราะ ปัญหาตาควรได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันความเสียหายถาวรครับ 





สัญญาณที่ 11: เหงือกซีดหรือเปลี่ยนสี


เหงือกของสุนัขที่มีสุขภาพดีควรมีสีชมพูอมแดง หากเหงือกมีสีซีด เหลือง น้ำเงิน หรือแดงเข้มผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณ ที่บอกว่าน้องหมาป่วยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลหิตจาง การขาดออกซิเจน โรคตับ หรือภาวะช็อก ซึ่งล้วนเป็นภาวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและต้องได้รับการรักษาโดยด่วน


วิธีช่วยเหลือเบื้องต้น: ทดสอบด้วยการกดเบา ๆ บนเหงือก แล้วปล่อย เหงือกควรกลับมาเป็นสีชมพูภายใน 1-2 วินาที หากเหงือกมีสีผิดปกติหรือเวลาในการกลับสู่สีปกตินานเกินไป ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนครับ 


สัญญาณที่ 12: มีกลิ่นปากหรือกลิ่นตัวผิดปกติ


แม้สุนัขจะมีกลิ่นเฉพาะตัว แต่กลิ่นที่ผิดปกติหรือรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ กลิ่นปากเหม็นผิดปกติอาจบ่งบอกถึงโรคเหงือก ฟันผุ หรือปัญหาในช่องปากอื่น ๆ ส่วนกลิ่นตัวผิดปกติอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ผิวหนัง ต่อมกลิ่น หรือการติดเชื้อที่หู รวมถึงปัญหาภายในร่างกายที่ร้ายแรง เช่น โรคไต


วิธีดูแลเบื้องต้น: หมั่นตรวจฟันและเหงือกของน้องหมา หากพบว่ามีเหงือกแดง ฟันมีคราบหินปูน หรือฟันโยก ควรพาไปตรวจสุขภาพช่องปาก ทำความสะอาดร่างกายทั่วไปด้วยแชมพูสำหรับสุนัข และตรวจสอบบริเวณที่อาจมีการติดเชื้อ เช่น ใบหู ซอกนิ้ว หรือส่วนรอยพับบนผิวหนังน้อง ๆ


สัญญาณที่ 13: กระหายน้ำหรือฉี่บ่อยผิดปกติ


การกระหายน้ำ กินน้ำมากขึ้นและปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ เป็นสัญญาณที่พบได้บ่อยในหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคคุชชิ่ง โรคไต หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สุนัขที่ดื่มน้ำมากผิดปกติและปัสสาวะบ่อย ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะถ้ามีอาการร่วมอย่างน้ำหนักลดหรือเหนื่อยง่าย


วิธีดูแลเบื้องต้น: จดบันทึกปริมาณน้ำที่น้องดื่มต่อวัน และดูว่าฉี่บ่อยแค่ไหน ถ้าเห็นว่าเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างชัดเจน ควรพาไปตรวจเลือดหรือปัสสาวะเพื่อหาสาเหตุครับ


สัญญาณที่ 14: พฤติกรรมก้าวร้าว


สุนัขที่ปกติมีนิสัยอ่อนโยนแต่เริ่มแสดงความก้าวร้าวอย่างกะทันหัน อาจกำลังเจ็บปวดหรือมีปัญหาสุขภาพ ความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเมื่อถูกสัมผัสที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง อาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บ ความเจ็บปวด หรือความไม่สบายตัวที่ซ่อนอยู่


วิธีดูแลเบื้องต้น: อย่าเพิ่งดุน้องนะครับ เพราะความก้าวร้าวอาจเป็นการปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด ลองสังเกตว่ามีจุดไหนที่น้องไม่ให้แตะ หรือลองสัมผัสเบา ๆ เพื่อเช็ก หากยังไม่แน่ใจ ควรพาไปหาคุณหมอเพื่อตรวจดูอย่างละเอียด หรืออาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ร่วมด้วยครับ


สัญญาณที่ 15: มีปัญหาในการเดินหรือขึ้นบันได


ความยากลำบากในการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องขึ้นบันไดหรือกระโดดขึ้นที่สูง อาจบ่งบอกถึงปัญหาข้อต่อหรือกล้ามเนื้อ เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคข้ออักเสบ หรือการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง สุนัขมักมีอาการเหล่านี้เมื่ออายุมากขึ้น แต่หากเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในสุนัขทุกวัย ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมครับ 


วิธีดูแลเบื้องต้น: ลดการเคลื่อนไหวที่อาจทำให้เจ็บปวดมากขึ้น เช่น การกระโดดหรือการวิ่ง จัดเตรียมทางลาดสำหรับขึ้นบันไดหรือขึ้นเตียง ให้น้องหมานอนบนที่นอนนุ่มๆ และอบอุ่น หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมครับ



คู่มือดูแลน้องหมาป่วยสำหรับเจ้าของมือโปร (และมือใหม่ก็ใช้ได้!)


การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน


เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เราอาจไม่มีเวลาคิดให้รอบคอบ ดังนั้นการเตรียมตัวล่วงหน้าไว้ก่อนคือทางเลือกที่ดีที่สุดครับ


  • มีกล่องปฐมพยาบาลประจำบ้าน: เตรียมไว้เลย! ใส่ผ้าพันแผล เทปกาว ถุงมือ ปรอทวัดไข้ น้ำเกลือเช็ดแผล และยาสามัญสำหรับสัตว์ (ที่สัตวแพทย์แนะนำ)

  • จดเบอร์สำคัญไว้ใกล้ตัว: เช่น คลินิกสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ 24 ชั่วโมง หรือบริการเคลื่อนย้ายสัตว์ฉุกเฉิน

  • รู้จักสัญญาณชีพพื้นฐาน: ลองเรียนรู้การจับชีพจร วัดการหายใจ และดูสีเหงือกเบื้องต้นไว้ เพื่อประเมินอาการเบื้องต้นได้เร็วขึ้น

  • ฝึกการเคลื่อนย้ายน้องหมาอย่างปลอดภัย: เช่น การห่อตัวด้วยผ้าห่มในกรณีบาดเจ็บ หรือวิธีอุ้มน้องที่ไม่ทำให้เจ็บซ้ำ


การสังเกตและเฝ้าระวังสุขภาพประจำวัน


สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำทุกวัน ลองใส่ใจน้องหมาด้วยกิจวัตรง่าย ๆ แบบนี้ดูนะครับ


  • ตรวจเช็กร่างกายสัปดาห์ละครั้ง: ลูบหัวจรดหาง เช็กหู ตา ฟัน ผิวหนัง และขน มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม

  • จดจำพฤติกรรมประจำตัวของน้องหมา: เพื่อสังเกตได้ไวเมื่อน้องๆ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนเดิม

  • ชั่งน้ำหนักเดือนละครั้ง: น้ำหนักขึ้นหรือลดผิดปกติอาจเป็นสัญญาณสำคัญ

  • ดูปริมาณน้ำ-อาหารที่กินในแต่ละวัน: ถ้าเปลี่ยนไปเยอะ อาจมีอะไรบางอย่างในร่างกายที่อาจมีปัญหา


การดูแลสุนัขป่วยที่บ้าน


เมื่อน้องหมาป่วย บางครั้งคุณหมออาจให้เราดูแลน้องที่บ้าน นี่คือสิ่งที่เจ้าของควรทำเพื่อช่วยให้น้องฟื้นตัวเร็วขึ้น


  • จัดเตรียมพื้นที่พักฟื้นให้น้อง: ควรมีพื้นที่ สะอาด สงบ และสบาย ห่างจากสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ และการรบกวน อุณหภูมิในห้องควรอบอุ่นและคงที่

  • ทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด: ไม่ว่าจะเป็นการให้ยา การทำแผล หรือการจำกัดกิจกรรม ให้จดบันทึกเวลาให้ยาและสังเกตผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  • ปรับอาหารตามคำแนะนำ: บางครั้งสุนัขป่วยอาจต้องการอาหารพิเศษหรืออาหารที่ย่อยง่าย ดูแลให้มีน้ำสะอาดพร้อมดื่มตลอดเวลา

  • ช่วยเหลือในการทำกิจวัตรประจำวัน: หากน้องหมาเคลื่อนไหวลำบาก อาจต้องช่วยพาเข้าห้องน้ำ หรือทำความสะอาดตัวให้

  • เฝ้าติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด: จดอาการและการตอบสนองต่อการรักษาไว้ ถ้าอาการแย่ลงให้รีบติดต่อคุณหมอทันที


การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน


การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา นี่คือวิธีที่จะช่วยให้น้องหมาของเพื่อน ๆ มีสุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย


  • พาไปตรวจสุขภาพประจำปี: แม้น้องจะดูแข็งแรงดี แต่การตรวจสุขภาพเป็นประจำช่วยตรวจหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นได้

  • ฉีดวัคซีนตามกำหนด: เพื่อป้องกันโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ไข้หัดสุนัข และโรคตับอักเสบ

  • ควบคุมพยาธิ เห็บ หมัดให้ดี: พยาธิสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ การถ่ายพยาธิและการป้องกันเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น

  • ดูแลสุขภาพช่องปาก: แปรงฟันให้น้องหมาเป็นประจำ และให้น้องได้ทำความสะอาดฟันโดยสัตวแพทย์เมื่อจำเป็น

  • ให้อาหารที่มีคุณภาพและเหมาะสม: อาหารที่มีโภชนาการครบถ้วนและเหมาะกับอายุ ขนาด และระดับกิจกรรมของน้องหมาเป็นพื้นฐานของสุขภาพที่ดี

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การเคลื่อนไหวช่วยรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อและข้อต่อ และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี

  • ดูแลสุขภาพจิตใจ: สุนัขก็เครียดและวิตกกังวลได้เช่นกัน การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มั่นคง มีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม

 

การเป็นเจ้าของน้องหมา ไม่ใช่แค่ให้อาหารหรือพาไปเดินเล่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใส่ใจสุขภาพกายและใจของน้อง ๆ อยู่เสมอ เพราะน้องหมาไม่สามารถบอกเราได้ด้วยคำพูดว่า “หนูไม่สบาย” สิ่งเดียวที่พวกเขามีคือ “สัญญาณเล็ก ๆ” ที่รอให้เราสังเกตและเข้าใจ


การรู้ทัน 15 สัญญาณที่อาจบอกว่าน้องหมากำลังป่วย จะช่วยให้เรารับมือได้เร็ว ดูแลได้ถูกวิธี และบางครั้งอาจช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้เลยครับ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นเจ้าของมือใหม่ หรือดูแลน้องหมามาหลายปีแล้ว การเรียนรู้เรื่องสุขภาพของพวกเขาก็ยังเป็นสิ่งที่ “คุ้มค่าเสมอ” เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเห็นเพื่อนขนฟูของเราแข็งแรง ร่าเริง และมีความสุขในทุก ๆ วัน 


และนอกจากการหมั่นสังเกตอาการแล้ว เรื่อง “อาหาร” ก็เป็นพื้นฐานที่สำคัญไม่แพ้กัน ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำมาจากโปรตีนแมลง ย่อยง่าย ให้โภชนาการสูง เหมาะกับน้องหมาทุกสายพันธุ์ ไว้ด้วยนะครับ



 
 
 

14 Comments


niyol18982
5 days ago

thesis writing service

thesis writing services

Academic writing services

dissertation writing service

dissertation writing service

dissertation writing services

custom dissertation writing service

dissertation help

write my dissertation for me

best dissertation writing services

custom dissertation writing service

cheap dissertation writing service

Like

niyol18982
5 days ago

buy a paper

Best place to buy essay online

Where to buy essay onlinebuy college papers

best place to buy essay paper

buying term paper

buying paper online

buy essay

buy essay paper

Buy an essay

Buy essay online

Like

niyol18982
5 days ago

pay someone to do my online class

pay someone to take my online class

hire someone to take my online class

take my online course for me

pay someone to take my class

Like

niyol18982
5 days ago

Nursing essay writing service

write my nursing essay

nursing essay writer

nursing writing services

nursing essay writing services

Nursing assignment help

help with nursing assignments

nursing assignment help

nursing homework help

nursing assignments help

do my nursing assignment

Like

niyol18982
5 days ago

Academic writing services

Academic writing service

Academic writing help

Academic writing websites

best academic writing services

academized

Like
bottom of page