สุนัขสายพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก อาหาร วิธีเลี้ยง [พร้อมราคา]
- YORA Expert

- Oct 5
- 3 min read
Updated: Oct 6

ถ้าใครกำลังมองหาน้องหมานิสัยดี ฉลาด ขี้อ้อน หน้าตาน่ารัก ต้องขอแนะนำสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) หรือที่หลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่า เชลตี้ (Sheltie) เพราะน้องเป็นสายพันธุ์ที่มีครบทั้งความน่ารัก นิสัยดี แถมยังเรียนรู้ไว ติดเจ้าของสุดๆ ด้วยขนฟูๆ หน้าตาหวานๆ และเป็นสายพันธุ์น้องหมาฉลาดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เชลตี้เลยกลายเป็นน้องหมาขวัญใจหลายบ้านทั่วโลก รวมถึงในไทยก็เริ่มมีคนเลี้ยงกันเยอะขึ้นแล้วเหมือนกัน
วันนี้ Yora Thailand เลยอยากชวนเพื่อนๆ มารู้จักกับน้องเชลตี้ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนิสัย ไลฟ์สไตล์ การดูแล การเลือกอาหารให้เหมาะกับช่วงวัย รวมถึงราคาคร่าวๆ สำหรับคนที่กำลังคิดๆ อยู่ว่า จะเลี้ยงน้องดีไหม ลองอ่านบทความนี้ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย แต่บอกเลยว่า มีสิทธิ์โดนน้องตกตั้งแน่นอน
ภาพรวมน้องหมา เชลตี้ เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
น้ำหนักเฉลี่ย | 7-9 กิโลกรัม |
ส่วนสูงเฉลี่ย | 33-37 เซนติเมตร |
อายุขัยเฉลี่ย | 12-13 ปี |
ลักษณะขน | ขน 2 ชั้น ดกหนา ยาวทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณใบหน้า |
สีขน | สีน้ำตาลขาว, สีขาวดำ, สีสามสีเช่น ดำ-ขาว-น้ำตาล, สีแต้มจุดหรือสีลายหินอ่อน เช่น blue merle (เทา-ฟ้า-ดำ-ขาว) |
นิสัย | แสนรู้ เชื่อฟัง อ่อนโยน ร่าเริง พลังงานเยอะ ไม่ชอบอยู่นิ่ง |
โรคที่ต้องระวัง |
|
ประวัติของสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
น้องหมาเชลตี้มีถิ่นกำเนิดอยู่บนหมู่เกาะเชทแลนด์ (Shetland Islands) ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีอากาศหนาวและลมแรงแทบทั้งปี ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้เอง ชาวบ้านจึงต้องมีผู้ช่วยตัวจิ๋วที่คล่องแคล่ว ขนหนา และทนต่อสภาพอากาศได้ดี เอาไว้ช่วยต้อนแกะและเฝ้าฝูงสัตว์ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเชทแลนด์ ชีพด็อก หรือ เชลตี้ ที่เรารู้จักกันในวันนี้
ย้อนกลับไปในยุคแรกๆ เชื่อกันว่าน้องเชลตี้ถือกำเนิดขึ้นจากการผสมกันของสุนัขหลายสายพันธุ์ เช่น สุนัขตระกูลสปิตซ์จากนอร์เวย์ที่มากับเรือประมง และสก็อตติช ชีพด็อก (Scottish Sheepdog) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอลลี่ ต่อมาชายชาวเชทแลนด์ชื่อ James Loggie ได้นำสุนัขพันธุ์ ราฟคอลลี่ หรือคอลลี่ขนยาวมาผสม เพื่อปรับปรุงลักษณะรูปร่างและนิสัยให้เหมาะกับการเลี้ยงดูในบ้าน
เมื่อเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 19 เชลตี้ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในอังกฤษและอเมริกา จากสุนัขต้อนแกะบนเกาะเล็กๆ กลายเป็นน้องหมาสุดน่ารักในบ้านของใครหลายคน จนในปี ค.ศ. 1911 เชลตี้ได้รับการรับรองชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการว่า Shetland Sheepdog โดยสมาคม American Kennel Club (AKC)

ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
เชทแลนด์ ชีพด็อก หรือ เชลตี้ เป็นสุนัขที่โดดเด่นเรื่องความฉลาดและนิสัยแสนรู้แบบที่ใครได้เลี้ยงก็ตกหลุมรักแบบไม่รู้ตัว ด้วยสายเลือดของสุนัขต้อนฝูง น้องจึงเรียนรู้ไว ตอบสนองต่อคำสั่งดีเยี่ยม และมักจะทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเจ้าของ จนถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ฉลาดที่สุดในโลก ใครที่ชอบฝึกน้องหมาให้ทำท่าต่าง ๆ หรือเล่นกิจกรรมอย่าง agility เชลตี้ถือว่าเหมาะมาก
นอกจากความฉลาดแล้ว เชลตี้ยังเป็นสุนัขขี้อ้อน ติดเจ้าของมากแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในบ้าน น้องก็มักจะตามเจ้าของไปเงียบ ๆ พร้อมส่งสายตาเว้าวอนรอจังหวะเข้ามานอนหนุนตักหรือขอเล่นด้วย เป็นเพื่อนที่อบอุ่นและไว้ใจได้สุด ๆ โดยเฉพาะกับคนที่เลี้ยงดูเขาอย่างสม่ำเสมอ
แต่ในขณะเดียวกัน เชลตี้ก็มักจะแสดงความระมัดระวังเมื่อเจอคนแปลกหน้า อาจมีเห่าเตือนบ้าง แต่โดยทั่วไปไม่ใช่สุนัขที่ก้าวร้าว ความไวต่อเสียงและสิ่งกระตุ้นรอบตัว เช่น เสียงออด เสียงรถ หรือเสียงเด็กเล่น ทำให้น้องอาจเห่าได้บ่อยในบางกรณี หากไม่ได้รับการฝึกให้ควบคุมพฤติกรรมตั้งแต่เล็ก
ด้วยพลังงานที่มีอยู่พอตัว เชลตี้ไม่ใช่น้องหมาที่จะอยู่เฉย ๆ ทั้งวันได้ น้องต้องการการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การเดินเล่นรอบบ้าน การเล่นของเล่นฝึกสมอง หรือการใช้เวลาเล่นกับเจ้าของ หากปล่อยให้น้องเบื่อเกินไปอาจนำไปสู่พฤติกรรมทำลายข้าวของหรือเห่าเกินความจำเป็นได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของเชลตี้คือความอ่อนโยนและเข้ากับเด็กหรือสัตว์เลี้ยงอื่นได้ดี โดยเฉพาะถ้าเลี้ยงแบบให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก น้องสามารถเป็นได้ทั้งเพื่อนเล่นของเด็ก และเป็นพี่เลี้ยงหมาแมวตัวอื่น ๆ ได้แบบไม่มีปัญหาเลย
มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีของสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
ถ้าใครกำลังมองหาน้องเชลตี้ที่ได้มาตรฐานสายพันธุ์ หรืออยากรู้ว่าน้องหมาพันธุ์นี้ควรมีลักษณะทางกายภาพแบบไหน ลองดูข้อมูลเหล่านี้เป็นแนวทางได้เลย โดยข้อมูลนี้อิงจากมาตรฐานของสมาคมสุนัขต่างประเทศ เช่น AKC (American Kennel Club) และ Fédération Cynologique Internationale (FCI)
โดยทั่วไป สุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก ควรมีขนาดตัวเล็กถึงกลาง มีสัดส่วนที่สมดุล ดูสง่างามแต่ก็ไม่บอบบางเกินไป จุดเด่นคือโครงสร้างร่างกายที่คล่องแคล่ว ปราดเปรียว สะท้อนถึงต้นกำเนิดการเป็นสุนัขใช้งานในฟาร์ม
ขนาดตัว: ความสูงที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 33–37 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 7–9 กิโลกรัม โดยตัวผู้จะสูงและหนักกว่าตัวเมียเล็กน้อย
ศีรษะ: ควรมีลักษณะเรียวยาวได้รูป ปลายจมูกแหลม หน้าผากไม่กว้างเกินไป
ดวงตา: เป็นทรงอัลมอนด์ ขนาดกลาง สีเข้ม
หู: หูตั้งแบบครึ่งเดียว (semi-erect) โคนหูตั้งตรงและปลายหูพับมาข้างหน้าเล็กน้อย
ลำตัว: สมส่วน กล้ามเนื้อแน่น หน้าอกลึก หลังตรงและแข็งแรง สะโพกลาดเล็กน้อย ดูมั่นคงและพร้อมเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อ
ขาและเท้า: ขาหน้าตรง ขาหลังมีกล้ามเนื้อชัดเจน เท้ากลมและแน่น ไม่แผ่ออก เหมาะสำหรับการยืนและวิ่งระยะไกล
หาง: ยาวปานกลาง มีขนฟู ชี้ลงในท่าปกติ และชูขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกตื่นเต้น แต่จะไม่โค้งไปด้านหน้าหรือหลัง มากเกินไป
ขน: เป็นจุดเด่นที่หลายคนหลงรัก ขนของเชลตี้เป็นแบบสองชั้น ชั้นนอกยาว ตรง และหนา ส่วนชั้นในแน่นและนุ่ม ช่วยให้น้องทนหนาวได้ดี ขนของเชลตี้จะฟูฟ่องทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณแผงคอ แต่บริเวณใบหน้าจะขนสั้นกว่าส่วนอื่น สีขนที่พบได้บ่อย ได้แก่ sable whtie (น้ำตาลขาว), tri-color (ดำ-ขาว-น้ำตาล), และ blue merle (เทา-ฟ้า-ดำ-ขาว)

โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
แม้เชลตี้จะดูแข็งแรง ขี้เล่น และกระฉับกระเฉงแค่ไหน แต่จริง ๆ แล้วก็มีโรคประจำสายพันธุ์ที่เจ้าของควรรู้ไว้ล่วงหน้า เพราะหลายโรคเป็นกรรมพันธุ์ที่อาจไม่แสดงอาการตั้งแต่เล็ก การเข้าใจล่วงหน้าและตรวจสุขภาพสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพื่อให้น้องได้ใช้ชีวิตอย่างแข็งแรงและมีความสุขไปกับเรานาน ๆ
โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ (Dermatomyositis) โรคนี้ถือเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ในสุนัขตระกูลเชลตี้และคอลลี่ มีผลต่อผิวหนังและกล้ามเนื้อ โดยอาจเริ่มมีอาการตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข เช่น ผื่นแดง ผิวแห้งลอก ขนร่วง หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาการอาจลุกลามจนส่งผลต่อการเคลื่อนไหวได้
โรคลมชัก (Epilepsy) เชลตี้บางตัวอาจมีแนวโน้มเกิดโรคลมชัก ซึ่งจะมีอาการชักแบบเฉียบพลัน เช่น เกร็ง กระตุก หรือหมดสติชั่วครู่ ถึงแม้จะดูน่าตกใจแต่ถ้าได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและกินยาควบคุมสม่ำเสมอ น้องก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism) ภาวะนี้เกิดจากระดับฮอร์โมนไทรอยด์อยู่ต่ำกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง อาการที่มักพบคือ น้ำหนักขึ้นง่าย เหนื่อยง่าย ซึม ผิวหนังแห้ง ขนร่วง หรือผิวหยาบ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการให้ยาฮอร์โมนเสริมอย่างต่อเนื่อง
โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation) เป็นโรคที่มักเกิดกับสุนัขพันธุ์เล็กถึงกลาง รวมถึงเชลตี้ด้วย โดยกระดูกสะบ้าจะเคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง ทำให้น้องเดินผิดปกติ ยกขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือเดินกะเผลก หากมีอาการรุนแรงอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
โรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ (Hip Dysplasia) ถึงแม้เชลตี้จะไม่ใช่พันธุ์ใหญ่ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อโรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติได้เช่นกัน โดยข้อสะโพกจะคลาดเคลื่อนจากตำแหน่ง ส่งผลให้เดินลำบาก กระโดดไม่ได้ หรือมีอาการเจ็บที่สะโพก เป็นโรคที่มักพบเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่หรือสูงวัย
โรควอนวิลลิแบรนด์ (Von Willebrand Disease) เป็นโรคที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ เชลตี้ที่มีภาวะนี้ หากเกิดบาดแผลหรือแม้แต่การมีแผลเล็ก ๆ เลือดก็อาจไหลนานกว่าปกติ และถ้าต้องเข้ารับการผ่าตัดก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นจึงควรตรวจพันธุกรรมล่วงหน้า โดยเฉพาะก่อนทำหัตถการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของน้อง
ความผิดปกติของตาในสุนัขพันธุ์คอลลี่ (Collie Eye Anomaly – CEA) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มคอลลี่และเชลตี้ มีผลต่อการพัฒนาของจอประสาทตา บางตัวอาจไม่มีอาการชัดเจน แต่อาจส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาว หากปล่อยไว้โดยไม่รู้ตัวอาจพัฒนาไปจนถึงตาบอดได้ ควรตรวจคัดกรองตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข
อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)

ลูกสุนัขเชทแลนด์ ชีพด็อก อายุ 1–3 เดือน
ในช่วงวัยแรกเริ่มนี้ ร่างกายน้องยังอยู่ในระยะเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ดังนั้นอาหารควรเน้นที่โปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อไก่หรือปลา พร้อมด้วย DHA และโอเมก้า 3 ที่ช่วยพัฒนาสมองและสายตา และเพราะการย่อยของลูกสุนัขยังไม่สมบูรณ์มากนัก จึงควรเลือกอาหารเม็ดสูตรลูกสุนัขโดยเฉพาะ หรือผสมน้ำให้นิ่มเล็กน้อยเพื่อให้เคี้ยวง่าย ควรแบ่งให้น้องกินวันละ 3–4 มื้อ เพื่อให้ดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ และไม่ให้ท้องว่างนานเกินไป
สุนัขโตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป
เมื่อเชลตี้เข้าสู่วัยโตเต็มวัย ความต้องการด้านพลังงานจะเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่น วิ่ง หรือฝึกคำสั่งต่าง ๆ อาหารที่แนะนำคืออาหารสูตรเฉพาะสำหรับสุนัขโตเต็มวัยหรือควรเลือกอาหารที่เน้นโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นหลัก เสริมด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย และใยอาหารที่ช่วยเรื่องระบบย่อย ควรมองหาอาหารที่มีส่วนผสมของกลูโคซามีนและคอนดรอยตินด้วย เพื่อดูแลข้อต่อที่อาจเริ่มรับแรงมากขึ้นจากการเคลื่อนไหว อาหารในช่วงนี้ให้วันละ 2-3 ก็เพียงพอ
สุนัขสูงวัย อายุ 7 ปีขึ้นไป
สำหรับเชลตี้ที่อายุเริ่มมากขึ้น ระบบเผาผลาญจะทำงานช้าลง และอาจเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เช่น ข้อเสื่อม หัวใจ หรือโรคเรื้อรังบางอย่าง การเลือกอาหารเม็ดสำหรับสุนัขสูงวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ อาหารที่เหมาะสมควรมีไขมันต่ำลง เพิ่มใยอาหารเพื่อช่วยระบบขับถ่าย และเสริมสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามิน E และโอเมก้า 3 เพื่อบำรุงสมอง หัวใจ และข้อต่อ อีกทั้งควรเลือกสูตรที่เนื้ออาหารนุ่ม เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย โดยเฉพาะสำหรับน้องที่เริ่มมีปัญหาเรื่องฟัน นอกจากนี้ อย่าลืมหมั่นสังเกตพฤติกรรมการกินของน้อง หากเชลตี้เริ่มเบื่ออาหาร อาจช่วยกระตุ้นความอยากกินด้วยการผสมอาหารเปียกเข้ากับอาหารเม็ด เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ความชุ่มชื้น และทำให้ทานได้ง่ายขึ้น
วิธีการดูแลสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
การดูแลเชทแลนด์ ชีพด็อก ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับคนที่มีเวลาและใส่ใจ เพราะน้องเป็นสุนัขที่รักเจ้าของ เรียนรู้ไว และพร้อมจะปรับตัวเข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เจ้าของควรรู้ไว้ เพื่อให้น้องอยู่กับเราได้อย่างแข็งแรง มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงวัย

การดูแลลูกสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก ช่วงอายุ 4–7 เดือน
ในช่วงวัยกำลังโต เชลตี้จะมีความอยากรู้อยากเห็นสูง ชอบสำรวจ และเริ่มพัฒนาทั้งร่างกายและนิสัยพื้นฐานอย่างรวดเร็ว การดูแลจึงควรเน้นเรื่องการสร้างวินัยและการเข้าสังคม โดยควรฝึกให้น้องคุ้นเคยกับคนแปลกหน้า สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ และสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น เสียงรถ เสียงคน หรือพื้นผิวที่ต่างกัน การฝึกคำสั่งพื้นฐาน เช่น “นั่ง” “คอย” “มา” ควรเริ่มตั้งแต่ช่วงนี้ เพราะเชลตี้เรียนรู้ไวมาก ถ้าได้รับการฝึกอย่างถูกวิธีจะจำได้เร็วและควบคุมง่าย
เรื่องอาหารควรให้อาหารสูตรลูกสุนัขอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุประมาณ 1 ปี พร้อมกับหมั่นสังเกตเรื่องน้ำหนักและสุขภาพขน การแปรงขนควรทำอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3–4 ครั้ง เพื่อป้องกันขนพันกันและลดปัญหาขนร่วง รวมถึงเริ่มต้นทำความสะอาดฟัน หู และตัดเล็บให้คุ้นเคยตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้น้องไม่ต่อต้านในอนาคต
การดูแลสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก โตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป
เมื่อเข้าสู่วัยโตเต็มวัย เชลตี้จะมีพลังงานสูงและต้องการการกระตุ้นทางร่างกายและสมองอย่างต่อเนื่อง ควรพาออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30–60 นาที เช่น เดินเร็ว วิ่งเล่น หรือเล่นเกมที่ช่วยฝึกสมอง นอกจากนี้ ยังสามารถฝึกน้องให้ทำกิจกรรมอย่าง dog sport หรือ agility ได้ด้วย เพราะเชลตี้เป็นสายพันธุ์ที่เก่งด้านนี้มาก
ในด้านการดูแลขน ควรแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3–5 ครั้ง และอาบน้ำทุก 3–4 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง การเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับสุนัขขนยาวจะช่วยให้ขนนุ่มสวยและไม่พันกันง่าย ส่วนการดูแลฟัน ควรแปรงฟันสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง และตรวจฟันตามรอบกับสัตวแพทย์ เพื่อป้องกันหินปูนและกลิ่นปาก
อย่าลืมพาน้องไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนตามกำหนด ตรวจเลือดปีละครั้งก็จะช่วยให้เรารู้ทันโรคแฝงต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การให้เวลาและความใส่ใจในชีวิตประจำวัน เชลตี้เป็นสุนัขที่ผูกพันกับเจ้าของมาก หากปล่อยให้อยู่ลำพังนาน ๆ อาจทำให้น้องรู้สึกเหงา วิตกกังวล หรือเครียดได้ง่าย การได้ใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะเล่น พูดคุย หรือแค่นั่งอยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ ล้วนเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายสำหรับน้องหมาสายพันธุ์นี้มาก ๆ
ราคาหมาพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog)
สำหรับใครที่เริ่มตกหลุมรักเชลตี้เข้าเต็มเปาแล้ว และกำลังคิดจะรับน้องเข้าบ้าน สิ่งหนึ่งที่หลายคนอยากรู้ก็คือ ราคาน้องอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่? ซึ่งราคาของสุนัขพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อกในไทยอาจแตกต่างกันตามหลายปัจจัย เช่น สายพันธุ์ (เกรดเลี้ยงเล่นหรือเกรดประกวด) ฟาร์มที่มาจำหน่าย เพศ ลักษณะขน สี และใบเพ็ดดีกรี
โดยทั่วไป ราคาของเชลตี้ในไทยมีช่วงราคาดังนี้:
ลูกสุนัขเชลตี้สายเลี้ยงเล่น (pet grade): ราคาอยู่ที่ประมาณ 17,000–25,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่ต้องการน้องไปเลี้ยงเป็นเพื่อนในครอบครัว มีใบวัคซีนและสุขภาพเบื้องต้นรับรองจากฟาร์ม
ลูกสุนัขเชลตี้สายประกวด (show quality): ราคาจะสูงกว่าสายเลี้ยงเล่น โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 40,000–70,000 บาท โดยลูกสุนัขกลุ่มนี้มักมีใบเพ็ดดีกรีเต็มรุ่น พ่อแม่พันธุ์มีสายประกวด และมาจากฟาร์มที่มีชื่อเสียง แต่ถ้าเป็นน้องหมาที่ นำเข้าจากต่างประเทศ หรือมาจาก ฟาร์มที่เน้นสายประกวดระดับแชมป์ ราคาก็อาจพุ่งสูงถึงหลักแสนได้เลย
เชลตี้โตเต็มวัยพร้อมฝึกเบื้องต้น: หากต้องการน้องที่ผ่านการฝึกพื้นฐานมาแล้ว เช่น ฝึกขับถ่ายในจุด ฝึกคำสั่งเบื้องต้น ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000–50,000 บาท แล้วแต่ทักษะและระดับการฝึก
ทั้งนี้ก่อนจะตัดสินใจรับน้องเชลตี้มาอยู่ด้วย อยากให้ว่าที่พ่อ ๆ แม่ๆ มองให้รอบด้านมากกว่าราคาเพียงอย่างเดียว เพราะการเริ่มต้นกับฟาร์มที่ไว้ใจได้ มีข้อมูลสุขภาพชัดเจน และดูแลพ่อแม่พันธุ์อย่างดี จะช่วยให้เราได้ลูกสุนัขที่ทั้งแข็งแรง อารมณ์ดี และปรับตัวง่าย แนะนำให้เลือกฟาร์มที่สามารถพูดคุยสอบถามได้ เปิดให้เข้าเยี่ยมชม และมีเอกสารรองรับครบถ้วน เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงดูที่สบายใจทั้งคนและน้องหมาในระยะยาวนะครับ
เชทแลนด์ ชีพด็อก หรือ เชลตี้ เป็นสุนัขที่ทั้งฉลาด น่ารัก อ่อนโยน และเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว เหมาะกับคนที่มองหาเพื่อนสี่ขาที่ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นสมาชิกในครอบครัวอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถ้าเราดูแลน้องอย่างเข้าใจ ตั้งแต่เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การเข้าสังคม ไปจนถึงสุขภาพและสภาพแวดล้อมรอบตัว เชลตี้ก็จะเป็นเพื่อนที่อยู่กับเราอย่างมีความสุขไปอีกนาน
และถ้าใครกำลังมองหาอาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการของเชลตี้ในทุกช่วงวัย ทั้งเรื่องพลังงานที่เหมาะสม การบำรุงขน ระบบย่อยอาหาร และสุขภาพระยะยาว เราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขจากโปรตีนแมลงไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนะครับ อร่อย ย่อยง่าย ให้โปรตีนสูง อ่อนโยนต่อระบบขับถ่ายและผิวหนังของสุนัขสายพันธุ์ขนฟูอย่างเชลตี้แน่นอน!
เพราะเราเชื่อว่าน้องหมาที่เรารัก ควรได้กินของดี ๆ และมีสุขภาพดีจากภายใน ดูแลด้วยใจ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เขา เลือก Yora


JSON Grid Online — The Smart Way to Visualize, Edit, and Organize JSON Data
In modern software development, data plays a central role. Whether you’re building a web application, working with APIs, or testing integrations, you’ll likely come across JSON (JavaScript Object Notation) — one of the most widely used data exchange formats 10% efforts.
While JSON is lightweight and easy for machines to process, manually reading and editing large JSON files can be difficult. The solution? JSON Grid Online tools — smart platforms that transform complex JSON code into interactive, spreadsheet-like grids for effortless viewing and editing.
Understanding JSON Before the Grid
Before diving into grid tools, it’s important to understand JSON itself.
JSON (JavaScript Object Notation) is a lightweight data…
Experience premium gaming at Fairplay, featuring top providers and a wide range of sports options. Enjoy seamless play on desktop or mobile with the Fairplay App, and get instant access through the simple Fairplay Login. Discover exciting features, high rewards, and nonstop entertainment with Fairplay India today. Visit now:https://fairplay.ing/
ReddyBook login is extremely smooth compared to many other platforms I’ve tried. It only takes a few seconds, and then you’re inside a world of sports and gaming updates. The ReddyBook App is also designed well, making navigation very simple. I prefer using the site on my desktop, but the mobile experience is just as good. ReddyBook is definitely worth checking out if you love sports and gaming updates. Visit: https://reddybookk.net.in/
11xplay has completely upgraded my gaming experience! The 11xplay login makes it simple and smooth to enjoy my favorite games anytime. The 11xplay Pro version brings exclusive features and rewards that enhance the fun for regular players. For an even more premium experience, 11xplay Black unlocks VIP-level thrills and next-level excitement. If you’re looking for secure, seamless, and engaging gaming, 11xplay is definitely worth exploring! Check it out today at https://11xplays.net.in/
Playinexch makes gaming and sports much more engaging with its user-friendly features. I appreciate how seamless the Playinexch login is, allowing me to get started without delays. Whether it’s following sports or enjoying different gaming options, this platform delivers a great experience for anyone looking for quality entertainment. Visit: https://playinexchh.org/